ดัตช์ กรังด์ปรีซ์ และครึ่งซีซั่นแห่งการต่อสู้

ฟอร์มูล่า วัน พักเบรก 3 สัปดาห์ และจะกลับมาใน ดัตช์ กรังด์ปรีซ์ รอบซ้อมรอบแรกเริ่ม 17.30 น. 25 ส.ค. นี้ ถ่ายทอดสดทางของ บีอินสปอร์ตส์1 (607) การรอคอยอันยาวนานและการพักผ่อนในฤดูร้อน (ในยุโรป) สิ้นสุดลงแล้ว สนามที่ 13 เข้าสู่ครึ่งฤดูกาลที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งยังต้องใช้คำเดิมว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ในทุกสนามต่อจากนี้ แต่จะมีอะไรบ้างที่ต้องติดตาม 

ผู้นำ

ไม่มีใครลืมว่า ครึ่งแรก เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ครองทุกสนาม แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน คว้าแชมป์ 10 เรซ ในนั้นเป็นการคว้าแชมป์ 8 เรซติดต่อกัน และดูเหมือนว่าจะมีปัญหาน้อยมาก หรือต่อให้มีในรอบคัดเลือกเมื่อถึงรอบจริงก็เอาตัวรอดไปได้ทุกครั้ง และ เซอร์จิโอ เปเรซ 2 เรซ 

ปี 2022 เวอร์สเตปเปน คว้าแชมป์สนามนี้แบบใจหายใจคว่ำ ขับเคี่ยวอย่างหนักกับรถของ เมอร์ซิเดส และเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ก็อย่างที่รู้ว่านี่คือ โฮมเรซ ของนักขับดัตช์ที่เนืองแน่นด้วยกองเชียร์เสื้อส้ม ตามสีธงชาติ “อัศวินสีส้ม” ใน ซานฟอร์ต การเป็นแชมป์ที่เนเธอร์แลนด์สจึงเป็น Must Win สำหรับ เวอร์สเตปเปน แพ้ไม่ได้

ผู้ตาม 

เหลือบมองที่ตารางคะแนน คงไม่มีใครไม่เชื่อว่า เร้ดบูลล์ เรซิ่งจาะพลาดแชมป์ในปลายทาง จาก 503 คะแนนในมือ นำหน้า เมอร์ซิเดสที่มี 247 คะแนนไปมากกว่าเท่าตัว ซึ่งดูน่าเบื่อไปสักหน่อยสำหรับสาวกทีมสัญชาติออสเตรีย แต่สำหรับ เมอร์ซิเดส ในอันดับ 2 และไล่ลงมาที่อันดับ 3 แอสตัน มาร์ติน ตามด้วย เฟอร์รารี่ นี่คือการต่อสู้แบบวัดใจในทุกเรซ และหากดูผลงานก่อนปิดเบรก แม็คลาเรน ในอันดับ 5 ก็มาร่วมวงด้วย 

แม้ใน สปา เซอร์กิต ลันโด นอร์ริส ร่วงไปไกลถึงอันดับ 7 แต่ก็เป็นมุมมองที่ทำให้ แม็คลาเรน ต้องระวัดระวังกับผลงานที่จะเกิดขึ้นเนเธอร์แลนด์ส และไม่ดีใจจนตัวลอยว่าการอัพเกรดสมบูรณ์แบบ ขณะที่ แอสตัน มาร์ติน ซึ่งน่าจะซุ่มปรับแต่งอะไรบางอย่างในช่วงเบรกอาจสร้างเซอร์ไพรส์ และ เฟอร์รารี่ ยังมีความหวังที่จะทำผลงานให้ดีขึ้น การต่อสู้ในครึ่งซีซั่นหลังจึงเป็นความท้าทายของเหล่าทีมที่จะผลักดันตัวเองขึ้นมาเป็น “บิ๊กทรี” 

เก้าอี้ดนตรีฤดูกาล 2024 

การสั่งฟัน นิค เดอ ฟรีส ของ อัลฟ่าทอรี เป็นแรงกระเพื่อมที่ทำให้เห็นว่า พวกเขาคือทีมแรกที่ขยับตัวเพื่อเตรียมการเปลี่ยนแปลงในปี 2024 ขณะที่ เมอร์ซิเดส มีข่าวว่าตกลงเจรจากับ ลูอิส แฮมิลตัน เรียบร้อยแล้ว โตโต้ วอล์ฟฟ์ เปิดเผยว่าขาดเรื่องรายละเอียดเล็กน้อย แต่ตราบใดที่ยังไม่จรดปากกาเซ็นสัญญา และประกาศอย่างเป็นทางการก็ยังไว้ใจไม่ได้ ทีมอื่นยังสามารถจับจ้องเพื่อรอโอกาสต้อนรับแชมป์โลก 7 สมัยได้อยู่ 

ฮาส และ อัลฟ่าทอรี เป็น 2 ทีมที่ยังมีที่นั่งว่างสำหรับปี 2024 แต่การเปลี่ยนแปลงสำหรับทีมที่มีหัวหน้าทีมอารมณ์ดีแบบ กุนเธอร์ สไตเนอร์ คงไม่ง่ายนัก ด้วยงบประมาณจำกัด ขณะที่ อัลฟ่าทอรี กำลังประเมินผลงานของ ยูกิ ทซึโนดะ และด้วยสไตล์ทีมน้องของค่ายใหญ่ ก็มักจะทำอะไรปุบปับ เป็นเรื่องยากจะคาดเดา ส่วนนักขับที่ยังว่างเปล่าและไม่รู้จะได้สัญญาในซีซั่นถัดไปหรือไม่คือ โจว กวนยู และ โลแกน ซาร์เจนท์ ซึ่งสถานการณ์ของ อัลฟ่าโรเมโอ ไม่สู้ดีนักกับอันดับ 9 ในประเภททีม และ ซาร์เจนท์ ยังเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่มีแต้ม เพราะ เดอ ฟรีส โดนเด้งไปก่อนแล้ว

ซานฟอร์ต คือสนามเหมาะสำหรับการเริ่มต้นอีก 10 สนามที่เหลือในระยะเวลา 13 สัปดาห์ของซีซั่นที่เหลืออยู่ต่อจากนี้ เนื่องจากกองเชียร์สีส้มจะสร้างสีสันสุดเหวี่ยง นอกจากนี้ สนามแห่งนี้ยังผสมผสานหลากหลายรูปแบบ มีทางตรงยาว มีทางโค้งเกือกม้า และมีสภาพอากาศแบบกึ่งทะเลทราย ลมแรง มีโอกาสสำหรับรถและทีมที่พร้อมจะหยิบฉวย ติดตาม ดัตช์ กรังด์ปรีซ์ รอบซ้อมรอบแรกเริ่ม 25-27 ส.ค. นี้ ถ่ายทอดสดทางของ บีอินสปอร์ตส์1 (607)