พรีวิว เอ็นเอฟแอล สัปดาห์ที่ 11

นับถอยหลังจากสัปดาห์นี้ด้วย เท่ากับฤดูกาลปกติของเอ็นเอฟแอล จะเหลืออีกเพียงสองเดือน

เท่ากับว่าระดับความเข้มข้นจะยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ ทางทฤษฎีทั้ง 32 ทีม ยังมีโอกาสเข้ารอบ

เวลา 08.15 น. ทางทรูสปอร์ต 1

ซินซินเนติ เบงกอลส์(5-4) เยือน บัลติมอร์ เรฟเว่นส์(7-3)

ทั้งสองทีมเพิ่งแพ้อย่างชอกช้ำ กันมา อย่าง เบงกอลส์ กำลังฟอร์มสวยๆ เปิดบ้านเจอ เท็กแซนส์ ดัน เครื่องดับ สามควอร์เตอร์แรก แต่ก็ยังเร่งเครื่องจนเกือบชนะ ก่อนมาโดน ฟิลด์โกล์ วินาทีท้าย พ่าย 27-30

เรฟเว่นส์ เซ่อยิ่งกว่า ทำท่าจะทุบ บราวน์ส คู่แค้นร่วมกลุ่มอยู่มือ ทิ้งห่าง 31-17 เหลือไม่ถึงสิบนาทีสุดท้าย กล้าๆ แพ้ 31-33

นี่ถ้า เอ็นเอฟแอล ให้แข่งกันแค่ สามควอร์เตอร์ ทาง เรฟเว่นส์ ก็คงเป็นทีมไร้พ่าย และเป็นแชมป์ห้าสมัยด้วยซ้ำ

ลูกทีมโค้ช จอห์น ฮาร์บอห์ กลับหาทางหัวทิ่ม ควอร์เตอร์สุดท้ายได้ตลอด

สามเกมซีซั่นนี้ที่ปราชัย สองในนั้น นำคู่แข่งสองหลัก

ถ้านับจากฤดูกาล 2022 พวกเขาแพ้ถึงหกเกมที่นำคู่แข่งสองหลัก(มากสุดของเอ็นเอฟแอล)

ถ้านับจากฤดูกาล 2021 พวกเขาแพ้ถึง 9 เกมที่นำคู่แข่งควอร์เตอร์สุดท้ายอย่างน้อย 7 แต้ม(มากสุดของเอ็นเอฟแอล)

ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอันใด ทั้งทีมพังพาบบ่อยมาก เวลานำคู่แข่งระดับสองสกอร์ หนึ่งในตัวปัญหาก็คือ ลามาร์ แจ็คสัน

ย้อนไปตั้งแต่สตาร์ทซีซั่น 2021 เขาขว้าง 13 ทัชดาวน์ เสียถึง 13 เทิร์นโอเวอร์ ในควอร์เตอร์สี่

โดยเฉพาะเมื่อ เรฟเว่นส์ นำควอร์เตอร์สี่ เรตติ้งควอร์เตอร์แบ็คของเขาจะมีแค่ 60.7 แย่สุดของบรรดาควอร์เตอร์แบ็คทั้งหมดที่ขว้างลูกอย่างน้อย 20 ครั้งในสถานการณ์ดังกล่าว

นอกจาก แจ็คสัน แล้ว ทีมรับ ก็ต้องรับไปด้วย

เมื่อไหร่ก็ตามที่ เรฟเว่นส์ สามารถแข่งขันควอร์เตอร์สุดท้ายให้เหมือน สามควอร์เตอร์แรก ทีมนี้ จะน่าเกรงขามอย่างมาก

ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาแล้วเมื่อสัปดาห์สอง ปรากฏว่า เรฟเว่นส์ เชือด เบงกอลส์ 27-24 แต่เอามาวัดอะไรได้ยาก เพราะ โจ เบอร์โรว์ ควอร์เตอร์แบ็คเบงกอลส์ ฝืนแข่งแบบขาแทบพิการไปข้างนึง

เบอร์โรว์ กลับมาแข็งแกร่งแล้ว แต่ เบงกอลส์ ก็หลังพิงฝา เพราะถ้ายังแพ้อีก โอกาสลุ้นแชมป์ ดิวิชั่น เอเอฟซีเหนือ แทบเป็นศูนย์

แนวโน้มเก่าๆ ก็ไม่ค่อยดีอีกต่างหาก เวลา เบงกอลส์ แข่งนอกบ้าน ช่วง แพรม-แทม หรือเกมหัวค่ำ ท้องถิ่น จะแพ้รวด 13 นัด

ถ้าจะมีใครของ เบงกอลส์ สามารถ ลบสถิติน่าอายดังกล่าวออกไป ก็คงต้องเป็น เบอร์โรว์ นี่แหละ

ส่วนโปรแกรมคืนวันอาทิตย์ต่อเช้าวันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน เริ่มตีหนึ่งตามเดิม ทางทรูสปอร์ต 1 และ 2 ครับ

พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส(6-3) เยือน คลีฟแลนด์ บราวน์ส(6-3)

ผลงานสตีลเลอร์ส ออกมาดีขนาดนี้ ต้องถือว่าน่าแปลกใจ เพราะ เกมบุก พวกเขาจัดว่าอยู่ในระดับย่ำแย่ โดยเฉพาะช่วงเดือนแรกของซีซั่น

กระทั่งสองสัปดาห์หลัง แววลืมตาอ้าปาก พอจะเห็นเหมือนกัน

จุดเริ่มก็คือ ให้ แมตต์ แคนาดา โค้ชเกมบุกลงมาทำงานอยู่ข้างสนาม

จากนั้น ก็พยายามลดภาระของ เคนนี่ พิกเก็ตต์ ควอร์เตอร์แบ็คอ่อนประสบการณ์

ตลอดสองสัปดาห์ สตีลเลอร์ส หันมาวิ่งมากขึ้น กลายเป็น 55.5% ต่างจากแปดสัปดาห์แรกที่ พวกเขาดันวิ่งเพียง 39.5%

การเปลี่ยนแนวทางบุก ถือว่าเห็นผลเหมือนกัน นอกจากให้ เจย์เลน วอร์เรน กับ นาจี แฮร์ริส วิ่งทำระยะทางพื้นดินมากสุดฤดูกาล สองเกมติด ยังเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด

สูตรสำเร็จของสตีลเลอร์ส จึงไม่มีอะไรมาก เน้นบุกทางพื้นดิน, เกมป้องกันเหนียวอยู่แล้ว จากนั้นก็ภาวนาว่า ไม่ต้องอยู่ในสถานการณ์ ให้ พิกเก็ตต์ ต้องก้าวขึ้นมาแบกทีมเพื่อเอาชนะ

อย่างไรก็ตาม สูตรดังกล่าวท่าทางจะเหนื่อย เพราะทีมรับ บราวน์ส หยุดวิ่งระดับหัวแถวลีก

ถ้าแนวโน้ม ยังออกมาแบบนั้น สตีลเลอร์ส ก็จะบุกยาก

ทั้งสองทีมเคยเจอกันเมื่อสัปดาห์สอง, สตีลเลอร์ส เคยชนะ 26-22 ก็จริง แต่สาเหตุหลักเกิดเพราะ ทีมรับกดไปสองทัชดาวน์

ถ้าทีมรับ ยังได้สองทัชดาวน์ แบบนั้นอีก สตีลเลอร์ส ก็น่าจะมีเฮ แต่ความเป็นจริง มันจะเกิดได้ยังไง?

สตีลเลอร์ส ทำระยะแพ้คู่แข่งทุกเกมในฤดูกาลนี้ อีกต่างหาก ดูทรงแล้วน่าจะรักษาสถิติต่อไปอีกสัปดาห์

บราวน์ส กำลังตั้งหลักได้ ชนะมาสี่จากห้านัด และขนาดเจอเกมป้องกัน เหนียวๆ ของ เรฟเว่นส์ ยังเปลี่ยนดาวน์สามได้ 8 จาก 16 หนด้วย

ลาส เวกัส เร้ดเดอร์ส(5-5) เยือน ไมอามี่ ดอลฟินส์(6-3)

ตั้งแต่ เร้ดเดอร์ส ตะเพิดโค้ช จอช แม็คแดเนี่ยลส์ ออกจากงาน ความเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น ลูกทีมตั้งใจแข่ง เอาชนะมาทั้งสองนัด ภายใต้ แอนโตนิโอ เพียร์ซ โค้ชชั่วคราว

น่าสนใจว่า พลังใจอย่างเดียวจะผลักดันให้ทีมสร้างผลงานคล้ายสมัย ริช บิแซคเคีย คุมทีมชั่วคราวแล้วมีลุ้นเพลย์ออฟ 2021 ได้มั้ย?

เส้นทางข้างหน้าถือว่า โหดมาก พ้นจาก ดอลฟินส์ ก็ยังต้องเจอ ชีฟส์ และ ไวกิ้งส์ อีก

สถานการณ์ ดูเป็นใจสำหรับ ดอลฟินส์ ซึ่งเพิ่งบายวีก เพราะ บิลล์ส คู่แข่งสำคัญที่จะแย่งชิงดิวิชั่น ยังเข้ารกเข้าพงบ่อยครั้ง

จุดด้อยของ ลูกทีม ไมค์ แม็คแดเนี่ยลส์ ก็คือ เวลาเจอคู่แข่งแข็งแกร่ง มักไม่รอด รวมทั้ง พ่าย ชีฟส์ 14-21 ที่ เยอรมันนี

แต่ เร้ดเดอร์ส ไม่ใช่คู่แข่งระดับดังกล่าว

ดอลฟินส์ มีเกมบุกร้อนแรงสุดทีมนึงของลีก ส่วน การป้องกันตั้งแต่ได้ เจเลน แรมซี่ย์ กลับมาช่วยก็ดูดีขึ้นตลอดสองเกม ถ้า กองกลางดาวรุ่งอย่าง เจเลน ฟิลลิปส์ เรียกความมั่นใจ กลับมาทำผลงานตามความคาดหวัง พวกเขาก็จะเป็นทีมที่น่าจับตาอีกครั้ง

โปรแกรม ตลอดเดือนก็ดูเป็นใจ พ้นจากเปิดบ้าน เจอ เร้ดเดอร์ส ก็เหลือแค่เยือน เจ๊ตส์, คอมมานเดอร์ส กลับมาเฝ้าบ้านเจอ ไททั่นส์ และ เจ๊ตส์ โอกาสกวาดชัยชนะชุดใหญ่ อยู่แค่เอื้อม

เวลาตีสี่ 25 นาที ออกอากาศทาง ทรูสปอร์ต 1 และ 2 ดังนี้ครับ

นิว ยอร์ค เจ๊ตส์(4-5) เยือน บัฟฟาโล่ บิลล์ส(5-5)

เจ๊ตส์ ประสบปัญหาการบุกอย่างหนัก ล่าสุดแพ้ เร้ดเดอร์ส 12-16 แม้ปัญหาหลักเกิดจาก แอร่อน ร็อดเจอร์ส บาดเจ็บตั้งแต่อึดใจแรกของฤดูกาลแต่ แปลกตรงที่ เมื่อจำต้องใช้งานควอร์เตอร์แบ็คอย่าง แซ็ค วิลสัน แล้ว ทีมกลับใช้เกมวิ่งน้อยเป็นอันดับสามลีก ทั้งที่มี ดาวรุ่งอย่าง บรีซ ฮอลล์

จากความหวังที่ เคยทำท่าเกิดขึ้น หลังจากพลิกล็อค ปราบ อีเกิ้ลส์ และ คัมแบ็คใส่ ไจแอนท์ส ทำท่ามอดลงอย่างรวดเร็ว

จบจากการเยือน บัฟฟาโล่ เสร็จ ยังต้องปะทะ ไมอามี่ ต่อ

แม้ทีมรับจะเหนียวแน่น เพียงใด ท่าทางจะสาหัสทีเดียว

บิลล์ส จะลงแข่งด้วยความคั่งแค้นเต็มอกเพราะเพิ่งแพ้ บรองโก้ส์ คาบ้าน 22-24 แบบทำตัวเองล้วนๆ ทั้งเสียสี่เทิร์นโอเวอร์ สามในนั้นเกิดจาก ควอร์เตอร์แบ็ค จอช แอลเล่น และความผิดพลาดของทีมพิเศษ วินาทีท้ายเกม

ถ้า ยังหวังเข้ารอบ พวกเขาหมดสิทธิแพ้ เกมนี้ด้วยประการทั้งปวง เพราะยังเหลือคู่แข่งอย่าง อีเกิ้ลส์, ชีฟส์, คาวบอยส์, ชาร์จเจอร์ส และ ดอลฟินส์ รออยู่ในช่วงเจ็ดเกมต่อไป 

ซีแอตเทิ่ล ซีฮอว์คส(6-3) เยือน แอลเอ แรมส์(3-6)

ซีฮอว์คส ภายใต้ พีท คาร์โรลล์ โค้ชวัย 72 ปี เพิ่งหืดขึ้นคอเชือด คอมมานเดอร์ส 29-26 แบบที่ จีโน่ สมิธ ควอร์เตอร์แบ็คน้ำขึ้นน้ำลง ขว้างถึง 369 หลา 

นี่คือชัยชนะสำคัญ ต่อความหวังลุ้นแชมป์ดิวิชั่นกับ โฟร์ตี้นายเนอร์ส หรืออย่างน้อยเพื่อเข้ารอบเพลย์ออฟ ในช่วงที่เหลือของฤดูกาล

จุดอ่อนของทีมคือ หาความแน่นอนไม่ค่อยเจอ รวมทั้งทีมรับ

การเดินทางเยือน แอลเอ ครั้งนี้ ก็ต้องชนะให้ได้เช่นกัน เพราะโปรแกรมที่รออยู่น่าจะโหดสุดกว่าทุกทีมในลีก มีทั้ง โฟร์ตี้นายเนอร์ส สองเกม, คาวบอยส์ และ อีเกิ้ลส์ อีก

แรมส์ ออกจากบายวีกโดย แทบไม่มีความหวังแล้วก็จริง แต่ได้รับข่าวดีเรื่อง แมตธิว สแตฟเฟิร์ด ควอร์เตอร์แบ็คตัวสำคัญ หายบาดเจ็บหัวแม่มือ พร้อมกลับมาแข่งขัน

ทีมตัดสินใจแยกทาง เบรตต์ ริพเพี่ยน ควอร์เตอร์แบ็คสำรองจอมเสียเทิร์นโอเวอร์ทิ้ง แล้วเซ็นสัญญา คาร์สัน เวนท์ซ เข้ามาแทน

ฟอร์มของ ริพเพี่ยน ก่อนตกงาน ถือว่าแย่มาก ขว้างได้แค่ 130 หลา จนต้องพ่าย กรีน เบย์ แพคเกอร์ส อย่างไม่มีลุ้น 3-20 

น่าสนใจก็คือ คาร์โรลล์ กลับดึงตัว ริพเพี่ยน เข้าไปอยู่ในรายชื่อฝึกซ้อม คาดว่าคงจะเพื่อสืบข้อมูล แรมส์ เท่าที่จะเป็นไปได้

ถือเป็นการชิงไหวชิงพริบ ของการแข่งขันที่น่าจะสูสี ทีเดียว

เช้าวันจันทร์ 08.20 น. ทางทรูสปอร์ต 1

มินนิโซต้า ไวกิ้งส์(6-4) เยือน เดนเวอร์ บรองโก้ส์(4-5)

จากเมื่อสองสัปดาห์ก่อน เกมคู่นี้ แทบไม่มีอะไรน่าสนใจทั้งเรื่อง จัสติน เจฟเฟอร์สัน ปีกตัวดังไวกิ้งส์ บาดเจ็บ ต่อด้วย เคิร์ก คัสซิ่นส์ ควอร์เตอร์แบ็คตัวสำคัญเจ็บหนักขนาดต้องปิดเทอม ส่วน บรองโก้ส์ ขณะนั้น เพิ่งมีปัญญาชนะเพียงสองเกม

ตัดภาพมาปัจจุบัน กลับมีเรื่องราวต่างๆ น่าสนใจเต็มไปหมด

จอช ด็อบบ์ส ควอร์เตอร์แบ็คพเนจร เทรดจาก คาร์ดินัลส์ เข้ามา ไวกิ้งส์ สดๆร้อนๆ กลับมีผลงานอัศจรรย์ พาทีมคว้าชัยสองเกมติด

เขายังเป็นควอร์เตอร์แบ็คคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ ทาง นาซ่า ตั้งฉายาให้ว่า"พาสส์โทรเน้าท์"

ด็อบบ์ส จบ วิศวกรรมการบินและอวกาศ จาก ม.เทนเนสซี่

ส่วน เจฟเฟอร์สัน ซึ่งพักยาวมาห้าเกม ซึ่งทีมคว้าชัยได้ทั้งหมด ทำท่ามีลุ้นกลับมารับบอลได้อีกคน

บรองโก้ส์ กำลังฮึกเหิมทีเดียว จากที่เคยมีเกมป้องกันแย่สุดทีมนึงของลีก พวกเขา ทำท่าเจอจุดพลิกผัน ฟอร์มดูดีมาเกือบเดือนแล้ว

ที่สำคัญก็คือ พลิกล็อคชนะใส่ทั้ง แชมป์เก่าอย่างชีฟส์ ต่อด้วย บิลล์ส เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คว้าชัยสามเกมรวด

ควอร์เตอร์แบ็คเคยดังอย่าง รัสเซลล์ วิลสัน เริ่มปักหลัก ทำผลงานสมค่าจ้าง เมื่อได้ ฌอน เพย์ตั้น มาคุมทีม

จุดเปราะที่ยังชัดเจนของพวกเขาก็อาจเป็นการหยุดวิ่ง แต่ ไวกิ้งส์ ไม่ใช่ทีมที่วิ่งเก่งกาจอะไร

เราอาจได้ดูเกมสูสีด้วยครับ เพราะ สิบเกมที่ มินนิโซต้า แข่งในฤดูกาลนี้ มีถึง 9 เกมที่ผลแข่งตัดสินแบบไม่เกิน 8 แต้ม หรือว่าหนึ่งสกอร์

ปิดท้ายสัปดาห์ เช้าวันอังคาร 21 พฤศจิกายน เวลา 08.15 น. ทางทรูสปอร์ต 1 เช่นเคย

ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์(8-1) เยือน แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์(7-2)

นี่คือคู่หกดาวด้วยซ้ำ เป็นทั้ง ศึกล้างตาจาก ซูปอร์ โบว์ลต้นปีที่ผ่านมา และอาจเป็น พรีวิวของ ซูเปอร์ โบว์ล ครั้งต่อไป

เท่านั้นไม่พอ ยังมีปัจจัยเรื่อง ทั้งสองทีมคือ ทีมเชียร์ของ เทย์เลอร์ สวิฟท์ ศิลปินสาวระดับโลก ซึ่งมีแฟนๆ ติดตามเธอ นับร้อยล้านคน

สวิฟท์ โตมาในฐานะแฟน อีเกิ้ลส์ แต่ปัจจุบันเธอคบหากับ แทรวิส เคลซี่ ปีกในคนดังของชีฟส์

มาดูกันว่า เธอจะปรากฏตัวในสนามมั้ย?

เนื่องจาก หลังคอนเสิร์ต ใน บราซิล วันที่ 19 พ.ย. ท้องถิ่น เธอจะมีเวลาพักถึงวันที่ 24 พ.ย.สำหรับคอนเสิร์ต ครั้งต่อไป

ถ้าความรักกำลังหวานสุดขีด การลงทุนบิน 12 ชั่วโมง ก็อาจจะคุ้มอยู่

ตั้งแต่ สวิฟท์ ปรากฏตัวบนสนามแข่ง ชีฟส์ ชนะมาทั้งสี่เกม และ เคลซี่ ก็สร้างผลงานสุดยอดด้วย เฉลี่ยรับ 108 หลาต่อเกม ต่างจากเวลา สวิฟท์ไม่มา เขารับบอลเหลือเฉลี่ยแค่ 41.3 หลา

ชีฟส์ เคยฝากรอยแค้นใส่ อีเกิ้ลส์ 38-35 เมื่อ ซูเปอร์ โบว์ล ครั้ง 57

แต่การกลับมาพบกันใหม่ สกอร์รวมอาจไม่เยอะเหมือนเก่า เพราะ ทีมรับ ชีฟส์ กำลังอยู่ระดับแนวหน้า เสียสกอร์น้อยเป็นอันดับสอง และเสียระยะขว้างน้อยเป็นอันดับสี่

อีเกิ้ลส์ สถิติดีสุดในลีกก็จริง แต่ดูเหมือน ควอร์เตอร์แบ็ค เจเลน เฮิร์ตส ไม่ค่อยสมบูรณ์ ยังดีที่เขามีเวลาพักฟื้นเข่ามาเต็มสองสัปดาห์ จากบายวีก

นี่คือปัจจัยสำคัญมากเพราะ ทีมยังต้องเจองานหนัก มี บิลล์ส, โฟร์ตี้นายเนอร์ส และ คาวบอยส์ ต่อคิวรอปะทะอยู่อีก

ชีฟส์ ก็บายวีก เช่นกัน หลังบินกลับจาก เยอรมันนี

ตามประวัติเก่า แอนดี้ หรีด โค้ชพวกเขา ได้บายวีกเมื่อไหร่ จะพาทีมชนะเกมในฤดูกาลปกติ 21 จาก 24 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม นิก ซิเรียอานนี่ โค้ชอีเกิ้ลส์ ก็ไม่เบา เขาไม่เคยแพ้ เวลาทีมออกจากบายวีก ฤดูกาลปกติ เหมือนกัน แม้จะแค่ 2-0 แต่ ก็เป็นการชนะคู่แข่งขาดลอยสองหลัก

ทั้งหมดคือ เกมเอ็นเอฟแอลสุดสนุกที่ ทรูวิชั่นส์ นำเสนอให้กับสมาชิก ในสัปดาห์ 11 ของฤดูกาลครับ