เลอแกลร์ คว้าโพล ลาส เวกัส อเล็กซ์ ออกสตาร์ทอันดับ 6

ชาร์ลส์ เลอแกลร์ คว้าโพล ฟอร์มูล่า วัน ลาส เวกัส กรังด์ปรีซ์ เมื่อ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย ตามด้วยเพื่อนร่วมทีม เฟอร์รารี่ คาร์ลอส ไซนซ์ และอันดับ 3 เป็นของ แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน ที่ไม่ได้เร่งเครื่องจนหมดเวลา เนื่องจากมองเห็นข้อจำกัดบางอย่าง ท่ามกลางสภาพอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็น

ช่วงซ้อมรอบ 3 ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง จอร์จ รัสเซลล์ ทำเวลาได้ดีที่สุดตามด้วย ออสการ์ ปิอัสตรี และ โลแกน ซาร์เจนท์ แต่เมื่อเริ่มรอบแรก ที่ ลาส เวกัส สตริป สตรีท เซอร์กิต ก็เกิดเซอร์ไพรส์ เนื่องจาก แม็คลาเรน ไม่สามารถผ่านไปได้ทั้งสองคัน ปิอัสตรี และ ลันโด นอร์ริส เป็นอันดับ 16 และ 19 เท่านั้น 

จากนั้นในรอบถัดไป เซอร์จิโอ เปเรซ ออกมาวิ่งได้ไม่นานก็กลับเข้าอู่ แต่ร่วงตกรอบในอันดับ 12 เนื่องจากทำเวลาได้ไม่ดีพอ ขณะที่ ลูอิส แฮมิลตัน ซึ่งต้องลุ้นอันดับ 2 ในประเภทนักขับกับ เปเรซ ก็ร่วงตกรอบนี้ และอยู่ติดกันในอันดับ 11 และ 12 สำหรับรองแข่งขันวันถัดไป 

วิลเลี่ยมส์ เรซิ่ง มีเป้าหมายที่ต้องการให้รถทั้งสองคันผ่านเข้าสู่ Q3 ก็ทำได้สำเร็จ โดยในรอบซ้อม โลแกน ซาร์เจนท์ เป็นอันดับ 3 และ อเล็กซ์ อัลบอน นักขับไทยเกิดอุบัติเหตุทำให้ทีมช่างต้องรีบซ่อมแซมรถและสามารถทำได้ทันเวลา มาในอันดับ 6 และ ซาร์เจนท์ อันดับ 9 เข้าสู่ท็อป 10 เป็นครั้งที่ 2 ของซีซั่นนี้ โดย อเล็กซ์ เป็นอันดับ 6 และ ซาร์เจนท์ อันดับ 7 ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ในฤดูกาลนี้

ชาร์ลส์ เลอแกลร์ เร่งทำเวลาตั้งแต่ช่วงออกตัว และช่องว่างเวลาระหว่าง ไซนซ์ และ เวอร์สเตปเปน อยู่ที่ 0.083 วินาทีเท่านั้น ช่วงท้ายรถของ เฟอร์รารี่ ยังพยายามทำเวลาที่ดีที่สุด แต่ เวอร์สเตปเปน ไม่ได้เร่งเครื่อง เพราะสภาพอากาศและการจราจร โดย ไซนซ์ คว้าอันดับ 2 แต่จะโดนปรับกริด 10 อันดับไปออกสตาร์ทอันดับ 12 เนื่องจากมีการปรับแต่งเครื่องยนตร์เกินกำหนด

ฟอร์มูล่า วัน ลาส เวกัส กรังด์ปรีซ์ รอบสุดท้าย เวลา 13.00 น. วันที่ 19 พ.ย. นี้ถ่ายทอดสดทางช่อง บีอินสปอร์ตส์1 (607)