พีจีเอ ทัวร์ VS ลิฟ กอล์ฟ ลีก

PGA vs LIV

พีจีเอ ทัวร์ VS ลิฟ กอล์ฟ ลีก

ก่อนเข้าสู่ปี 2024 ข่าวใหญ่ในวงการกอล์ฟไม่มีอะไรที่สร้างความแตกตื่นมากไปกว่าการข้ามค่ายของ จอน ราห์ม อดีตมือ 1 โลกชาวสเปนที่ย้ายจาก พีจีเอ ทัวร์ ไปสู่ ลิฟ กอล์ฟ ลีก แม้ในปี 2023 ที่ผ่านมา ทั้งสองได้ยุติสงครามเพราะมีข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับผลประโยชน์ร่วมกันได้บ้างแล้ว แต่ผู้เล่นจากทั้งสองฝ่ายจะยังคงต่อสู้กันต่อไป 

การมาของ ลิฟ สร้างความแตกต่าง ข้อถกเถียง ความขัดแย้ง และอะไรต่ออะไรอีกมากมายให้กับวงการกอล์ฟ ที่ผ่านมา กอล์ฟ มีภาพลักษณ์ของความเป็นกีฬาสำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี แต่งกายเรียบร้อย ไม่ส่งเสียงดังเวลาที่ผู้เล่นกำลังทีช็อตหรือจรดไม้ออกช็อต และจะเริ่มต้นการแข่งขันที่หลุม 1 และหลุม 10 แต่ ลิฟ แตกต่างออกไป ด้วยแนวคิดสั้นง่ายได้ใจความว่า “Golf but Louder” กอล์ฟเหมือนกัน แต่เสียงดังกว่า 

ว่ากันตามตรง ลิฟ พยายามทำให้กอล์ฟเป็น สปอร์ต เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ระบบลีกมีผู้เล่นตัวหลัก และผู้เล่นที่จะโดนคัดออกหากผลงานในซีซั่นนั้นไม่ถึงมาตรฐาน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ปี 2023 ไม่มีโปรไทยทั้ง สดมภ์ แก้วกาญจนา และ พชร คงวัดใหม่ แต่เป็นผู้เล่นรายอื่น ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าไปแทนที่ 

ความแตกต่างมากกว่านี้ระหว่าง พีจีเอ ทัวร์ และ ลิฟ กอล์ฟ ว่ากันตามตรง พีจีเอ คือการแข่งขันที่มีฐานอยู่ที่สหรัฐ มีระบบการแข่งขันไล่ชั้นลงไปทั้งอาชีพ สมัครเล่น มหาวิทยาลัย ที่เหล่าเยาวชนจะไต่ลำดับขึ้นมาจนเป็นโปร เทียบกับทัวร์อื่นๆ ที่นี่มีการแข่งขันสูง และมีเงินรางวัลสูง ขณะที่ ลิฟ มีเงินรางวัลสูงเช่นกัน แต่ระบบและความมั่นคงยังเป็นคำถามที่ชาวโลกตั้งข้อสงสัย จนถึงตอนนี้ ลิฟ ยังไม่สามารถได้รับการจัดการเข้าสู่ระบบการจัดอันดับโลก (Official World Golf Ranking) ได้เลย เนื่องจากมีปัญหากับการวางรากฐานจากระดับเยาวชน ไล่เรียงขึ้นมา อย่างที่รู้กันว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ซื้อตัวมาจาก พีจีเอ ทัวร์ แต่ข้อดีที่พอมีในตอนนี้นอกจากทุ่มเทเงินรางวัลคือ ความพยายามที่จะจัดการแข่งขันให้กระจายไปในหลากหลายทวีปทั่วโลก ซึ่งตอนนี้ยังขาดแค่อเมริกาใต้ และแอฟริกา 

เป็นที่ร่ำลือกันอย่างมากว่า ผู้เล่นระดับท็อปของโลกอย่าง ดัสติน จอห์นสัน หรือ ไบรสัน เดอชอมโบ ซึ่งเคยคว้าแชมป์เมเจอร์มาแล้ว ได้ค่าสัญญาคนละ 100 ล้านเหรียญ (ประมาณ 3,442 ล้านบาท) ต่อปี ซึ่ง ราห์ม ก็ได้รับค่าสัญญามูลค่าสูงนี้เช่นเดียวกัน และน่าจะมาเป็นหน้าตาของลีกต่อจาก บรู๊คส์ โคเอปก้า ที่ยืนหยัดมาตลอด เพราะคว้าแชมป์เมเจอร์เพิ่มมาในปี 2023 หลังจากโดนครหาอย่างหนักว่า 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา กับการลงเล่น 8 และ 14 สนาม เพียงพอที่จะสร้างโมเมนตัมหรือความต่อเนื่องในรายการใหญ่หรือไม่ อย่างไร ซึ่ง โคเอปก้า ตอบคำถามนั้นใน พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 

การทำข้อตกลงร่วมกันระหว่าง พีจีเอ และ ลิฟ ยังทำให้ รอรี่ แม็คอิลรอย โปรชาวไอร์แลนด์เหนือและอดีตมือ 1 โลกเลิกโจมตีผู้เล่น หรือกระทั่งกลุ่มทุนซาอุดิอาระเบียออกสื่อ และยังลาออกจากการเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของสหภาพผู้เล่น หลังจากต่อสู้มาตลอดปี 2022 ซึ่งในบอดร์ดบริหารนั้นมี ไทเกอร์ วูดส์ รวมอยู่ด้วย และจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม การลุกขึ้นมาต่อสู้กับ ลิฟ ส่งผลต่อฟอร์มในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ไม่มากก็น้อย 

แม็คอิลรอย เป็นผู้เล่นในระดับสูง แม้โดนค่อนขอดว่าไม่ได้แชมป์เมเจอร์มานานตั้งแต่ปี 2014 แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะใน ดิ โอเพ่น ไม่เคยมีใครกล้าตัดชื่อเขาออกไปจากกลุ่มผู้เล่นที่จะได้ลุ้นแชมป์ และในอีกหลายปีจากนี้ โปรชาวไอร์แลนด์เหนือจะยังเป็นหน้าตาของ พีจีเอ ต่อไป เพราะกอล์ฟ เป็นกีฬาที่ยังสามารถอยู่ในระดับสูงได้แม้เลยวัย 30 ไปแล้ว

ข้อตกลงร่วมกันยังทำให้กำแพงที่มองไม่เห็นอีกมากมายค่อยๆ ลดระดับลง เพราะเป็นผลประโยชน์ของแฟนๆ เมื่อ ไรเดอร์ คัพ หรือ เพรสิเดนท์ คัพ รายการแข่งขันระดับไม่ปิดกั้นผู้เล่นไม่ว่าจะมาจากทัวร์หรือลีกใดๆ แต่ก็อย่างที่เรื่องกำลังดำเนินไป ความขัดแย้งยังมาไม่ถึงปลายทาง เพราะยังเหลือการจัดอันดับโลกที่ ลิฟ ยังเข้าไม่ถึงหรือยังไม่ได้รับไฟเขียว จึงยังมีคำถามกลางอากาศ กลางฤดูกาล ที่ต้องการคำตอบ และการต่อสู้แบบไม่เปิดเผยระหว่างทั้งสองค่ายยังดำเนินต่อไปในปี 2024