สเปอร์สสถิติข่มเรือใบสีฟ้า แต่เกมนี้มีสิทธิ์โดนเล่นคาบ้าน

พรีวิวฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบที่ 4
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พบ แมนฯ ซิตี้
สนาม : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม
เวลา : 02.45 น. เสาร์ที่ 27 มกราคม 2567 (แข่งคืนวันศุกร์)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 1 (ช่อง 607)

สเปอร์ส
ทีมไก่เดือยทอง ของ แอนจ์ ปอสเตโคกลู กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้ง หลังจากที่ 7 เกมหลังสุดมีสถิติชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 1 ต่างจาก 5 เกมก่อนหน้านั้นที่แพ้ 4 เสมอ 1 โดยผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ถึงถิ่น 2-2 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ขาดตัวหลักไปเกือบครึ่งทีมเนื่องจากปัญหาบาดเจ็บรวมกับส่วนหนึ่งที่ต้องไปเล่นให้ทีมชาติทั้งในรายการอย่าง แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ และ เอเชี่ยน คัพ แต่กระนั้น สเปอร์ส ก็ยังเล่นได้ยอดเยี่ยม ส่วนใน เอฟเอ คัพ รอบที่แล้วพวกเขาเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ มาได้ 1-0 แต่รอบนี้ถือว่างานหนักเพราะดันจับสลากมาเจอกับเต็งแชมป์อย่าง แมนฯ ซิตี้

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุด สเปอร์ส เหลือนักเตะที่ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มากแล้ว โดยจะไม่มีเพียงแค่ โจวานี่ โล เซลโซ่, มานอร์ โซโลมอน และ อเลโฆ่ เบลิซ ส่วน เจมส์ แม็ดดิสัน กลับมาซ้อมได้แล้ว และมีลุ้นลงเล่นในเกมนี้หลังเจ็บไปนาน ขณะที่ อีฟส์ บิสซูม่า, ป๊าป ซาร์ และ ซน ฮึง-มิน ต้องไปรับใช้ทีมชาติ นั่นทำให้เกมนี้ สเปอร์ส จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 เหมือนเดิม แนวรุกจะใช้ ริชาร์ลิซอน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี ติโม แวร์เนอร์, เจมส์ แม็ดดิสัน และ เดยัน คูลูเซฟสกี้ เป็นตัวสนับสนุนในเกมรุก

แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กลับมาอยู่ในฟอร์มที่คงเส้นคงวาอีกครั้ง หลังไม่แพ้ใครมา 9 เกมติดต่อกันแล้วในทุกรายการ โดยเป็นการชนะ 8 เสมอ 1 ผลงานในเกมลีกนัดล่าสุดคือการบุกไปเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-2 โดยได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากการวางบอลยาวที่สุดยอดของ เควิน เดอ บรอยน์ ทำให้ตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ ขยับมาอยู่อันดับที่ 2 ของตาราง หลังเก็บไปแล้ว 43 คะแนนจาก 20 นัด ตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูงอยู่ 5 แต้ม แต่ยังแข่งน้อยกว่า 1 นัด ส่วนใน เอฟเอ คัพ รอบที่แล้วพวกเขาก็เอาชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ มาแบบสบายๆ 5-0 แต่รอบนี้ที่ แมนฯ ซิตี้ ต้องมาเยือน สเปอร์ส ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่ไม่ง่ายสำหรับพวกเขาแน่นอน

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ จะไม่มีแค่ จอห์น สโตนส์ เพียงรายเดียวที่ยังบาดเจ็บ ขณะที่ มานูเอล อาคานจี และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กลับมาซ้อมได้แล้ว แต่อาจจะยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ และต้องรอเช็คความฟิตของ เอแดร์ซอน นายทวารมือหนึ่งอีกครั้ง หลังเจ็บมาจากเกมที่แล้ว แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา และ เควิน เดอ บรอยน์ ก็น่าจะพร้อมแล้วกับการลงเล่นเป็นตัวจริง ทำให้เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 ตามเดิม ฮูเลียน อัลวาเรซ จะยืนเป็นหน้าเป้า และมีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์ และ ฟิล โฟเด้น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สเปอร์ส (4-2-3-1) : กูเยลโม่ วิคาริโอ : เปโดร ปอร์โร่, คริสเตียน โรเมโร่, มิคฟี้ ฟาน เดอ เฟ่น, เดสตินี่ อูโดกี้ : โอลิเวอร์ สคิปป์, โรดริโก้ เบนตานกูร์ : เดยัน คูลูเซฟสกี้, เจมส์ แม็ดดิสัน, ติโม แวร์เนอร์ : ริชาร์ลิซอน

แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : สเตฟาน ออร์เตก้า : ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, เนธาน อาเก้, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล : โรดรี้, มาเตโอ โควาซิช : แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น : ฮูเลียน อัลวาเรซ

ความน่าจะเป็น : เป็นเกมที่น่าจะสู้กันอย่างสนุกสูสี สเปอร์ส อาจจะดูเป็นรอง แมนฯ ซิตี้ ในหลายๆ มิติ แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาเหนือกว่าคือการเล่นในบ้าน เพราะพวกเขาไม่แพ้ แมนฯ ซิตี้ ที่บ้านของตัวเองมา 5 เกมติดต่อกันแล้ว แถมยังชนะได้ทั้งหมดและไม่เสียประตูอีกต่างหาก นั่นทำให้เกมนี้ สเปอร์ส จะไม่เป็นรอง อย่างไรก็ตาม จากการที่พวกเขาขาดตัวหลักไปหลายรายน่าจะมีผลกระทบแน่ ตรงข้ามกับ ซิตี้ ที่ฟอร์มแรงจัด และยังได้ตัวหลักอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ กลับมา ก็ยิ่งแกร่งมากกว่าเดิม ดูแล้วมีโอกาสออกเสมอเช่นกัน แต่ถ้าจะมีผู้ชนะยังเชื่อว่าทีมเรือใบสีฟ้าอาจจะล้างอาถรรพ์ได้เสียที

สกอร์ที่คาด : สเปอร์ส แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-2