พรีวิว เอ็นเอฟแอล รอบคอนเฟอเรนซ์แชมเปี้ยนชิพ

เอ็นเอฟแอล มาถึงศึกตัดสิน หาสองทีมเข้า สู่ ซูเปอร์ โบว์ล ใน ลาส เวกัส ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้ากันแล้ว

แฟนๆ มากมายทั้งขาประจำ และขาจรต่างอยากเห็น เทย์เลอร์ สวิฟท์ แฟนทีมคนใหม่ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ ผ่านเข้าไปเจอ ดีทรอยท์ ไลอ้อนส์ ซึ่งมี เอมิเน็ม ตำนานฮิปฮอปเป็น กองเชียร์

ในความเป็นจริง โอกาสน่าจะตกกับ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส และ บัลติมอร์ฟ เรฟเว่นส์ มากกว่า

ไม่นับเรื่องฝีมือแล้ว ปัจจัยหลายอย่างเอื้อให้กับพวกเขา

ทั้งสองทีมแข่งขัน รอบ ดิวิชันน่อล วันอาทิตย์(เวลาไทย) เท่ากับจะได้พักเพิ่มกว่า หนึ่งวัน

ในรอบ 13 ปี ทีมที่แข่ง วันอาทิตย์(เวลาไทย) จะ คว้าชัยเกมชิงคอนเฟอเรนซ์ 19 จาก 28 ครั้ง หรือเกือบ 68%

เท่านั้นไม่พอ ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งทีมที่ แข่งวันอาทิตย์(เวลาไทย) ในรอบดิวิชันน่อล หลุด เข้า ซูเปอร์ โบว์ล 17 จาก 19 ปี

โอกาสที่ ชีฟส์ จะเจอ ไลอ้อนส์ มีอยู่เพียง 11%

พักมากกว่าหนึ่งวัน ไม่พอ ทั้ง เรฟเว่นส์ กับ นายเนอร์ส ยังแข่งในบ้านอีกต่างหาก

รอบสิบปีที่ผ่านมา เจ้าบ้านในเกมชิงเอ็นเอฟซี และ เจ้าบ้านในเกมชิง เอเอฟซี ยังเก็บชัยชนะได้ 8 จาก 10 ครั้ง

ทรูวิชั่นส์ ทรูสปอร์ตส 1 ถ่ายทอดสดให้ได้ร่วมเป็นสักขีพยานกันครับว่า แนวโน้มที่ว่า จะเป็นจริงหรือไม่?

เช้าวันจันทร์ที่ 29 มกราคม เวลา 03.00 น. เกมชิง เอเอฟซี

แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์(13-6) ทีมอันดับสาม เยือน บัลติมอร์ เรฟเว่นส์(14-4) ทีมอันดับหนึ่ง

ลามาร์ แจ็คสัน ควอร์เตอร์แบ็คเรฟเว่นส์ เพิ่งหลุดมาถึงเกมชิงเอเอฟซี หนแรกอาชีพ และคนที่เป็นขวากหนามสำคัญขวางทาง สู่ ซูเปอร์ โบว์ล ของเขา ก็คือ แพทริก มาโฮมส์ ซึ่งเข้ามาหกปีซ้อน

อันดับแรกก็ต้องลุ้นว่า เทย์เลอร์ สวิฟท์ จะยังตามมาเชียร์ แทรวิส เคลซี่ แฟนของเธอต่อมั้ย?

มาโฮมส์ เพิ่งผ่าน จอช แอลเล่น ควอร์เตอร์แบ็ค บัฟฟาโล่ บิลล์ส มาอย่างหืดขึ้นคอ ต้องเจอโจทก์ยากกว่าเดิม

ทีมรับ เรฟเว่นส์ เสียแต้มน้อยสุดของลีก (16.5) และยัง แซ็คมากสุดของลีก(60)

อย่างไรก็ตาม แจ็คสัน ก็ต้องสู้กับ ทีมรับชีฟส์ ที่เสียแต้ม น้อยอันดับสองลีก และ แซ็คมากสุดอันดับสองลีก

เกมบุกของชีฟส์ ดูป้อแป้มาเกือบตลอดซีซั่น กลับผ่านถึงรอบนี้ได้ เพราะ มาโฮมส์ กับ ออฟเฟ้นซีฟไลน์ของเขา ทำหน้าที่กันอย่างสุดยอด

ทีมรับ ดอลฟินส์ กับ บิลล์ส ไม่มีปัญญา แซ็คใส่ เขาแม้แต่หนเดียว

การเข้ากดดันและบี้ใส่ มาโฮมส์ คือกุญแจสำคัญ

ซีซั่นนี้ มาโฮมส์ โดนแซ็คใส่อย่างน้อย สามหน รวมสี่เกม ปรากฏว่า ชีฟส์ แพ้ไป 3 ครั้งทีเดียว

ทีมรับ เรฟเว่นส์ ไม่มี ซูเปอร์สตาร์ ที่แซ็คกระหน่ำอย่าง ที.เจ.วัตต์ หรือ มายล์ส การ์เร็ตต์ แต่ พวกเขามี สามคนที่ แซ็คอย่างน้อย 9 ครั้ง และอีก 7 คน แซ็คอย่างน้อย 3 ครั้ง

แปลความหมายก็คือ หลายคนถนัดเรื่องการไล่บี้ ควอร์เตอร์แบ็ค และ ไมค์ แม็คโดนัลด์ โค้ชทีมรับก็มีคู่มือใช้งานพวกเขา

ถ้าสองทีมนี้เจอกันเมื่อเดือนก่อน เรฟเว่นส์ น่าจะเก็บชัยชนะสำเร็จ แต่ ดูเหมือนตอนนี้ เกมบุก ชีฟส์ เริ่มเดินเครื่องอย่างไหลลื่นอีกแล้ว

สองเกมรอบเพลย์ออฟ ชีฟส์ มีค่าเฉลี่ยทำแต้มต่อเกม และบุกกินระยะต่อเกม มากกว่า ฤดูกาลปกติ

ปัจจัยสำคัญก็คือ เคลซี่ นั่นเอง จากสามเกมสุดท้ายฤดูกาลปกติ รับเฉลี่ย 29.3 หลาต่อเกม ไม่มีซักทัชดาวน์

พอเข้าเพลย์ออฟ เขารับเฉลี่ย 73 หลาต่อเกม กับอีก สองทัชดาวน์

อย่างไรก็ตาม เรฟเว่นส์ อาจไม่กลัว เคลซี่ เพราะตลอดฤดูกาล พวกเขาปล่อย ปีกในคู่แข่ง รับแค่ สามทัชดาวน์ น้อยสุดร่วมอันดับสองลีก

มาโฮมส์ ผ่านเกมเยือนเพลย์ออฟหนแรกในบัฟฟาโล่ มาหมาดๆ ต้องเจองานหนักกว่าเก่า

เขายอมรับว่า เอ็มทีแอนด์ที แบ้งค์ สเตเดี้ยม บ้านของ เรฟเว่นส์ คือหนึ่งใน สอง สเตเดี้ยม ที่เสียงคนดูดังมาก จนคุยกับ ออฟเฟ้นซีฟไลน์ ไม่รู้เรื่อง ต้องใช้วิธี ไซเล่นท์ เค้าน์ แทน

มองในแง่นึงก็ถือเป็นอุปสรรคสำคัญ แต่อีกแง่นึง มาโฮมส์ก็เคยเจอมาก่อน พอมีประสบการณ์

เสียงเชียร์ แฟนๆ บัลติมอร์ จะต้าน มาโฮมส์ อยู่หมัด พร้อมส่ง แจ็คสัน กับ เรฟเว่นส์ ซึ่งมีเกมวิ่งดุดัน กลับเข้า ซูเปอร์ โบว์ล ได้หรือไม่?

เช้าวันจันทร์ที่ 29 มกราคม เวลา 06.30 น. เกมชิง เอ็นเอฟซี

ดีทรอยท์ ไลอ้อนส์(14-5) ทีมอันดับสาม เยือน ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส(13-5) ทีมอันดับหนึ่ง

นี่คือครั้งแรกตั้งแต่ปี 1992 ที่ ไลอ้อนส์ หลุดเข้ามาถึงเกมชิงแชมป์ เอ็นเอฟซี 

โลกในยุคนั้น วานิลลา ไอซ์ ยังเป็นแรปเปอร์ขาวที่ดังสุดของโลก ก่อน จะมี เอมิเน็ม 

ของไทยเรา เพิ่งเริ่มใช้ระบบ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ครั้งแรก และเกิดเหตุการณ์ พฤษภาคมทมิฬ

สารัช อยู่เย็น กองกลางคนดังทีมชาติไทย ก็เพิ่งลืมตาดูโลก

สามทศวรรษนับจาก เข้าชิงเอ็นเอฟซี แล้วแพ้ วอชิงตัน เร้ดสกินส์ ยับเยิน 41-10 โดยไม่เคยได้กลับเข้ามาอีก

ส่วนใหญ่ ไลอ้อนส์ คือ แมวน้อยของวงการ เพิ่งลืมตาอ้าปาก เพราะการมาของ โค้ช แดน แคมป์เบลล์

ถ้า ไลอ้อนส์ ต้องการผ่านถึง ซูเปอร์ โบว์ล เป็นครั้งแรกของแฟรนไชส์ พวกเขาต้องแก้ไขการป้องกันขว้างโดยทันที

ฤดูกาลปกติ โดนคู่แข่งปาใส่ เฉลี่ย 247.9 หลา แย่สุดอันดับหกลีก เข้ามาเพลย์ออฟสองเกม ก็ยังโดน ทั้ง แมตธิว สแตฟเฟิร์ด(367) กับ เบเกอร์ เมย์ฟิลด์(349) ขว้างใส่ เป็นว่าเล่น

ไลอ้อนส์ ยังรอดมาได้ ก็เพราะเกมบุก ดุดันด้วย

แต่ถ้าสัปดาห์นี้ ยังปล่อย บร็อก เพอร์ดี้ ขว้างระดับ 300 กว่าหลา ดูแล้วคงรอดยาก ในเมื่อทีมรับ นายเนอร์ส อยู่ระดับหัวแถวลีก เสียแต้มน้อยเป็นอันดับสาม และเสียระยะน้อยเป็นอันดับแปด

ความหวังก็อาจต้องเปิดเกมวิ่งจาก จาห์เมียร์ กิ้บบ์ส และ เดวิด มอนท์กอมเมอรี่ เพื่อบุกกินเวลานานๆ และไม่ให้ เจเร็ด กอฟฟ์ ควอร์เตอร์แบ็คพวกเขาโดนกดดันเกินไป

กอฟฟ์ เป็นพวกถ้ามีเวลาปักหลักขว้างลูก ก็อันตรายทีเดียว

ปีนี้ เวลาทีมรับ นายเนอร์ส โดนวิ่งใส่ ระดับร้อยหลา พวกเขาชนะ 3 แพ้ 4

สองเกมที่ชนะ ทำใส่ ทีมระดับล่างอย่าง คาร์ดินัลส์ ส่วน อีกเกมเพิ่งเกิดเมื่อรอบ ดิวิชันน่อล ผ่าน แพคเกอร์ส แบบน้ำลายเหนียวคอ

จุดเปราะของทีมรับ นายเนอร์ส คือหยุด ตัววิ่ง รับบอลเก่งไม่ค่อยอยู่

โดน ตัววิ่งคู่แข่ง รับใส่ 90 ครั้ง 625 หลา ติดอันดับแปดจากบ๊วยทั้งสองสถิติ

กิ้บบ์ส ตัววิ่งไลอ้อนส์ มีคุณสมบัติเด่นเรื่องการรับบอลด้วย

ขณะที่ทีมรับ ไลอ้อนส์ ก็มีจุดเด่นเรื่องการ เสียระยะวิ่งน้อยสุดอันดับสอง จะได้ปะทะ คริสเตียน แม็คแคฟฟรี่ย์ อาวุธอันตรายสุดของ นายเนอร์ส

อีกปัจจัยสำคัญก็คือ ควอร์เตอร์แบ็คฝั่งไหน จะพลาดมากกว่ากัน

ไลอ้อนส์ สถิติ 4-4 เวลา กอฟฟ์ เสียอย่างน้อย หนึ่ง อินเทอร์เซ็ปต์ แต่ 10-1 เวลาที่เขาไม่พลาด

ส่วน นายเนอร์ส สถิติ 2-4 ในเกมที่ เพอร์ดี้ เสียอย่างน้อย หนึ่ง อินเทอร์เซ็ปต์ แต่ 11-0 เวลาที่เขาไม่พลาด

ปัจจัยสุดท้ายคือ อาการบาดเจ็บไหล่ของ ดีโบ้ ซามูเอล ปีกสารพัดประโยชน์ของนายเนอร์ส หนึ่งในสาเหตุที่ทีมเกือบพ่าย แพคเกอร์ส ก็เพราะ ซามูเอล เจ็บตั้งแต่ต้นเกม

ปีนี้ เขาไม่ได้แข่งสองนัด ทีมแพ้ทั้งสองนัด

ไลอ้อนส์ ไม่เคยชนะเพลย์ออฟ นอกบ้าน ตั้งแต่ปี 1957 ไม่เคยบุกชนะที่ ซาน ฟรานซิสโก ตั้งแต่ปี 1975

ไม่เคยเข้าซูเปอร์ โบว์ลตลอด 57 ปีที่ผ่านมา พวกเขาจะสร้างปาฏิหารย์ ให้เกิดขึ้นได้มั้ย?