ลิเวอร์พูลเยือนปรากไม่ง่าย ต้องพักตัวรอเจอเรือใบอาจได้แค่เจ๊า

พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก
สปาร์ต้า ปราก (เช็ก) พบ ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
สนาม : เล็ทน่า สเตเดี้ยม
เวลา : 00:45 น. วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567 (แข่งคืนวันพฤหัสบดี)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 3 (ช่อง 609)

สปาร์ต้า ปราก
สปาร์ต้า ปราก ทีมแกร่งจากสาธารณรัฐเช็ก ผ่านเข้ามาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ด้วยการเล่นรอบเพลย์ออฟ เจอกับทีมที่ตกลงมาจาก แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่าง กาลาตาซาราย ซึ่งถือว่ามีภาษีดีกว่า แต่ สปาร์ต้า ปราก โชว์ให้เห็นถึงความเก๋า โดยเฉพาะการเล่นในบ้านที่เป็นจุดเด่น ทำให้ล้มทีมดังจากตุรกีมาได้ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 6-4 ซึ่งทีเด็ดเลยคือเกมนัดสองที่ได้กลับมาเล่นในบ้าน สปาร์ต้า ปราก จัดการถล่ม กาลาตาซาราย ไปอย่างขาดลอย 4-1 ทำให้พลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายเข้ารอบได้ในที่สุด ส่วนฟอร์มการเล่นในช่วงที่ผ่านมาก็ถือว่าค่อนข้างยอดเยี่ยม โดย 14 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ พวกเขาแพ้ไปแค่เกมเดียว เสมอ 1 และชนะได้ถึง 12 เกม นอกจากนี้ 5 เกมหลังสุดพวกเขายังไม่แพ้ใคร มีผลงานชนะ 4 เสมอ 1 น่าจะทำให้การเจอกับ ลิเวอร์พูล วันนี้ ถึงจะเป็นงานยากแต่เชื่อว่า สปาร์ต้า ปราก สู้สุดใจแน่

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น สปาร์ต้า ปราก แทบไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเลย โดยเกมนี้จะไม่มีแค่ ฟิลิป ปานัค ที่ยังบาดเจ็บเล็กน้อยแค่รายเดียวเท่านั้น ที่เหลือไม่มีปัญหา ฟิตพร้อมลงสนามทั้งหมด ในระบบการเล่น 3-4-3 แนวรุกจะใช้งานสามประสานในแดนหน้าอย่าง เวลจ์โก้ บีร์มานเซวิช, ยาน คุชต้า และ ลูคัส ฮาราสลิน คอยไล่ล่าประตู ขณะที่แดนกลางจะมี คาซิม ลาซี่ และ คาน ไคริเน่น คอยคุมเกม

ลิเวอร์พูล
หลังจากที่ทีมหงส์แดงเสียสถิติแพ้เป็นเกมแรกในรอบ 12 นัดในทุกรายการ ในเกมที่บุกไปพ่ายต่อ อาร์เซน่อล ไป 3-1 เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่แพ้ใครอีกเลย โดยชนะ 6 เกมติดต่อกันในทุกรายการ ทั้งๆ ที่ต้องเจอกับปัญหานักเตะบาดเจ็บมากมาย ผลงานในเกมล่าสุดคือเกมพรีเมียร์ลีกที่บุกไปเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่่ผ่านมา โดยมาได้ประตูชัยในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายอย่างเหลื่อเชื่อ ทำให้พวกเขายังนำเป็นจ่าฝูงต่อไปอย่างเหนียวแน่น จากการเก็บไปแล้ว 63 แต้มจากการลงเล่น 27 เกม นำหน้า แมนฯ ซิตี้ ที่ตามหลังมาแบบติดๆ แค่ 1 แต้ม ส่วนในเกม ยูโรป้า ลีก วันนี้ แม้ว่า ลิเวอร์พูล มีความต้องการที่จะคว้าแชมป์รายการนี้เช่นกัน แต่เชื่อว่าเกมนี้อาจจะต้องมีการพักตัวหลักเอาไว้บ้าง เพราะมีเกมลีกนัดสำคัญที่ต้องเจอกับ แมนฯ ซิตี้ วันอาทิตย์นี้รออยู่

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ลิเวอร์พูล มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บล้นทีมเลยทีเดียว โดยพวกที่ยังเจ็บลงเล่นไม่ได้อย่างแน่นอนนั้นประกอบไปด้วย โฌแอล มาติป, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ดีโอโก้ โชต้า, เคอร์ติส โจนส์, อลิสซง เบคเกอร์, ไรอัน กราเฟ่นแบร์ค และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำให้เกมนี้ ลิเวอร์พูล น่าจะมีการใช้งานผู้เล่นดาวรุ่งในบางตำแหน่ง ในระบบการเล่น 4-3-3 แนวรุกอาจจะใช้งานผู้เล่นอย่าง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, โคดี้ กัคโป และ ลูอิส คูมาส เป็นสามประสานในแดนหน้า ขณะที่แดนกลางอาจต้องใช้งาน โดมินิก โซโบซไล, วาตารุ เอ็นโด และ เจมส์ แม็กคอนเนลล์ คอยคุมเกม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สปาร์ต้า ปราก (3-4-3) : ปีเตอร์ วินดาห์ล : มาร์ติน วิติค, ลาดิสลาฟ เครจ์ชี่, แอสเกอร์ โซเรนเซ่น : อังเคโล เปรเซียโด้, คาซิม ลาซี่, คาน ไคริเน่น, มาเตจ์ ไรน์ส : เวลจ์โก้ บีร์มานเซวิช, ยาน คุชต้า, ลูคัส ฮาราสลิน

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวิน เคลเลเฮอร์ : โจ โกเมซ, จาเรลล์ ควอนซาห์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, คอสตาส ซิมิคาส : โดมินิก โซโบซไล, วาตารุ เอ็นโด, เจมส์ แม็กคอนเนลล์ : ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, โคดี้ กัคโป, ลูอิส คูมาส

ความน่าจะเป็น : ถ้าว่ากันตามฟอร์มและชื่อชั้น ยังไง ลิเวอร์พูล ก็เหนือกว่าแน่ๆ แต่ด้วยความที่มีเกมสำคัญกับ แมนฯ ซิตี้ รออยู่ อีกทั้งนักเตะก็บาดเจ็บล้นทีม ทำให้เชื่อว่าทีมหงส์แดงคงต้องยอมโรเตชั่นในเกมนี้ นั่นทำให้จะเป็นโอกาสของ สปาร์ต้า ปราก ที่ได้เปรียบจากการเล่นในบ้าน ยกระดับฟอร์มการเล่นขึ้นมาในระดับที่สูสีกัน รูปเกมน่าจะออกมาคู่คี่ อยู่ที่ว่าใครจะใช้โอกาสได้ดีกว่า ลิเวอร์พูล อาจจะมีเกมรุกที่ไว้ใจได้ และมีโอกาสชนะ แต่เชื่อว่าโอกาสออกเสมอกันมีมากที่สุด

สกอร์ที่คาด : สปาร์ต้า ปราก เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1