ราชันชุดขาวฟิตเต็มสูบ เกมสูสีแต้มีลุ้นเบียดเรือใบสีฟ้า

พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศนัดแรก
เรอัล มาดริด (สเปน) พบ แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ)
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
เวลา : 02:00 น. วันพุธที่ 10 เมษายน 2567 (แข่งคืนวันอังคาร)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 3 (ช่อง 609)

เรอัล มาดริด
ราชันชุดขาวที่นำโดย คาร์โล อันเชลอตติ มีฟอร์มการเล่นที่สุดยอดมากจริงๆ จนถึงตอนนี้ลงเล่นมาแล้ว 42 เกมรวมทุกรายการ เพิ่งจะแพ้ไปแค่ 2 เกมเท่านั้น เสมอ 7 และชนะไปถึง 33 เกม ถือว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ ล่าสุดก็ไม่แพ้ใครมา 13 เกมติดต่อกันแล้ว และชนะมาตลอดใน 3 เกมหลังสุด ผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา ไปได้ 2-0 ในเกม ลา ลีกา สเปน เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้พวกเขานำเป็นจ่าฝูงใน ลา ลีกา แบบหายห่วง มีอยู่ 75 แต้มจาก 30 นัด ทิ้งอันดับ 2 อย่าง บาร์เซโลน่า 8 แต้ม ทำให้สามารถจะทุ่มสมาธิไปใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เต็มที่ แถมสภาพร่างกายก็ฟิตสุดๆ เพราะได้พักมาราวๆ 10 วันเต็ม

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เรอัล มาดริด มีปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มากนัก โดยเกมนี้พวกเขาจะไม่มีเพียงแค่ ดาวิด อลาบา และ ติโบต์ กูร์กตัวส์ เท่านั้นที่ยังไม่หายเจ็บ นอกนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ เรอัล มาดริด จะมาในระบบการเล่น 4-3-1-2 เหมือนเดิม คู่กองหน้าจะเป็น วินิซิอุส จูเนียร์ จับคู่กับ โรดรีโก้ โดยมี จู๊ด เบลลิงแฮม เป็นเพลย์เมคเกอร์ ส่วนแดนกลางก็จะมีตัวเก๋าอย่าง โทนี่ โครส คอยคุมเกมร่วมกับ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ และ โอเรเลียง ชูอาเมนี่

แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้ายังคงเล่นได้อย่างสุดยอดอย่างต่อเนื่อง หลังไม่แพ้ใครมา 25 เกมติดต่อกันแล้วในทุกรายการ และยังเป็นการชนะไปได้ถึง 21 เกม ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปถล่ม คริสตัล พาเลซ 4-2 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้แม้ว่าจะยังรั้งอยู่อันดับที่ 3 ในลีกตามเดิม แต่ก็มีแต้มตามหลังจ่าฝูงอย่าง อาร์เซน่อล เหลือแค่แต้มเดียวแล้ว จากการมีอยู่ 70 คะแนนจาก 31 นัด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฟอร์มการเล่นของทีมเรือใบสีฟ้าจะสุดยอด แต่การที่ต้องลงเล่นต่อเนื่องทุกๆ 3 วันมาตลอดน่าจะมีผลต่อสภาพร่างกาย รวมถึงการต้องเจอกับ เรอัล มาดริด ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบนี้ น่าจะต่างไปจากที่เจอเมื่อปีก่อน ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ต้องเจอกับความท้าทายในเกมนี้อย่างแน่นอน

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นบาดเจ็บเช่นกัน โดยจะไม่มีแค่ ไคล์ วอล์คเกอร์ เท่านั้นที่ยังมีอาการเจ็บอยู่ ขณะที่ในรายของ ยอชโก้ กวาร์ดิโอล มีอาการเจ็บเล็กน้อย ต้องรอเช็คความฟิตอีกครั้ง ที่เหลือไม่มีปัญหา ฟิตพร้อมลงสนามทั้งหมด ทำให้เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ จะมาในระบบการเล่น 4-3-3 แนวรุกใช้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า ขนาบข้างด้วย ฟิล โฟเด้น และ เฌเรมี่ โดกู โดยมี เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้ และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา คอยสร้างสรรค์เกมตรงกลาง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล มาดริด (4-3-1-2) : อังเดร ลูนิน : ดาเนียล การ์บาฆาล, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, นาโช่ เฟร์นานเดซ, แฟร์กล็อง เมนดี้ : เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, โทนี่ โครส : จู๊ด เบลลิงแฮม : โรดรีโก้, วินิซิอุส จูเนียร์

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส : มานูเอล อาคานจี, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, เนธาน อาเก้ : แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดรี้, เควิน เดอ บรอยน์ : ฟิล โฟเด้น, เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์, เฌเรมี่ โดกู

ความน่าจะเป็น : แม้ว่าการเจอกันเมื่อฤดูกาลที่แล้วในรอบรองชนะเลิศ แมนฯ ซิตี้ จะสอนบอล เรอัล มาดริด ไปแบบขาดลอย 2 เกมผลรวม 5-1 แต่ปีนี้น่าจะแตกต่างออกไป เพราะราชันชุดขาวกลายเป็นทีมพลังหนุ่ม ฟอร์มการเล่นก็ยอดเยี่ยม แถมสภาพร่างกายก็ฟิตเต็มที่ แม้ว่า ซิตี้ จะฟอร์มเยี่ยมไม่แพ้กัน แต่ก็กรำศึกหนัก และยังมีจุดอ่อนในเกมรับ ทำให้เกมนี้น่าจะออกมาสูสี แต่ เรอัล มาดริด รู้ดีว่าต้องชนะในเกมนี้ก่อนให้ได้ ไม่อย่างนัดหน้าจะลำบาก ทำให้เกมนี้พวกเขาจะเปิดเกมบุกอย่างเต็มที่ ก่อนจะอาศัยความได้เปรียบเบียดเอาชนะไปได้

สกอร์ที่คาด : เรอัล มาดริด ชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1