เอริค เทน ฮาก กุนซือของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าทีมเล่นแบบขาดงวินัยจนทำให้เจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก แม้ว่าท้ายที่สุดจะเป็นฝ่ายเอาชนะในการดวลจุดโทษ และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึก เอฟเอ คัพ ได้ก็ตาม
แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นในเกม เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ พบกับ โคเวนทรี ซิตี้ ทีมจากศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อดูจากชื่อชั้นแล้วทีมปีศาจแดงควรที่จะเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้แบบไม่ยากนัก
ซึ่งรูปเกมที่ออกมาก็เป็นแบบที่หลายฝ่ายคาดไว้จริงๆ นั่นคือ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายครองเกมไว้ได้เกือบหมด ก่อนจะเป็นฝ่ายออกนำไปก่อน 2-0 ในครึ่งแรก จากประตูของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ในนาทีที่ 23 และ 45 ตามลำดับ
จากนั้นในครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยิงเพิ่มเป็น 3-0 จากการยิงของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในนาทีที่ 58 ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร และทำให้ทีมปีศาจแดงเหมือนจะเพลาเกมลง กลายเป็นเปิดโอกาสให้ โคเวนทรี ได้เล่นเกมของตัวเองมากขึ้น ก่อนที่ เอลลิส ซิมม์ส จะมายิงตีไข่แตกให้ทีมช้างกระทืบโรงไล่มาเป็น 3-1 ในนาทีที่ 71
จากนั้นนาทีที่ 79 คัลลั่ม โอแฮร์ ยิงแฉลบ อารอน วาน-บิสซาก้า บอลลอยขึ้นสูงก่อนฮุกลงมาเสียบคานเข้าประตูไป ทำให้ โคเวนทรี คึกคักขึ้นมาทันที และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาเสียจุดโทษ เมื่อ วาน-บิสซาก้า ไปทำแฮนด์บอล ก่อนที่ ฮาจี้ ไรท์ จะรับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้ โคเวนทรี ตีเสมอ 3-3 ได้ไปลุ้นต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ซึ่งในช่วงนาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา 120 นาที โคเวนทรี เกือบน็อคปีศาจแดงตกรอบ เมื่อ วิคเตอร์ ทอร์ป ได้โอกาสยิงจ่อๆ เข้าประตูไป แต่วีเออาร์ริบประตูกลับคืนเพราะเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนเพียงนิดเดียว ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังได้อยู่ในเกม และไปตัดสินกันในการดวลจุดโทษ ซึ่งแข้งปีศาจแดงมีความนิ่งมากกว่า เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 4-2 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้ตามเป้าหมาย แต่การปล่อยให้คู่แข่งที่เป็นรองกว่าฟื้นกลับมาได้ ทั้งๆ ที่ตามหลังไปแล้วถึง 3 ประตูนั้น เป็นเรื่องที่ไม่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง เทน ฮาก ก็ได้กล่าวยอมรับว่า "มันเป็นเกมที่น่าเหลือเชื่อและเป็นเกมที่แปลกมาก เราคุมเกมเอาไว้ได้กว่า 75 นาที และต้องชมเชย โคเวนทรี ในสิ่งที่พวกเขาทำในช่วง 15 นาทีสุดท้าย"
"เราต้องปรับปรุงเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราคุยกันมาอย่างมากมาย อันดับแรกคุณต้องทำให้ตัวเองอยู่ในจุดที่มีโอกาสเอาชนะ และต้องข้ามจุดนั้นไปให้ได้ ในช่วงเวลาสำคัญเรามักทำผิดพลาด และไม่มีความรับผิดชอบ เราเล่นกันแบบไม่มีวินัย มันเกี่ยวกับการสื่อสาร ซึ่งเราต้องปรับปรุงเรื่องนี้"
สำหรับนัดชิงชนะเลิศในศึก เอฟเอ คัพ จะเป็นการพบกันระหว่าง แมนฯ ซิตี้ และ แมนฯ ยูไนเต็ด ในวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคมนี้
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial