ความยาว 70 รอบสนาม “เซอร์กิต ชิลส์ วิลล์เนิฟ” ควรจบการแข่งขันในไม่ถึง 2 ชม. แต่ “แคนาเดี้ยน กรังด์ปรีซ์ 2011” ยืยาวเกินสองเท่า และมีเซฟตี้คาร์ออกมา 6 ครั้ง
F1 FLASHBACK
CANADIAN GRANDPRIX
แคนาเดี้ยน กรังด์ปรีซ์ ที่ยาวนานที่สุด
แคนาเดี้ยน กรังด์ปรีซ์ เป็นหนึ่งในการแข่งขัน ฟอร์มูล่า วัน อันเก่าแก่ในแถบอเมริกาเหนือและอเมริกากลาง 3 อันดับแรกอยู่ในสหรัฐ และอันดับ 4 อยู่ที่ เม็กซิโก ซิตี้ และอันดับ 5 ที่ ควีเบค แคนาดา เริ่มต้นในปี 1967 เซอร์กิต มงต์ ทรองบลองต์ ก่อนจะย้ายมา เซอร์กิต ชิลส์ วิลล์เนิฟ ในปี 1978
สนาม ชิลส์ วิลล์เนิฟ ตั้งชื่อตามนักขับชาวแคนาเดี้ยนผู้ยิ่งใหญ่ที่เสียชีวิตจากการแข่งขันในเบลเยี่ยมเมื่อปี 1982 โดยความยาวสนาม 4.361 กม. 70 รอบ ด้วยความเร็วประมาณ 1 นาที 20 วินาทีต่อรอบ น่าจะใช้เวลาไม่ถึง 2 ชม. เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่ในปี 2011 แคนาเดี้ยน กรังด์ปรีซ์ ยาวนานเกือบ 4 ชม. ซึ่งหากการแข่งขันเริ่มต้นตามเวลาประเทศไทย 01.00 น. กว่าจะจบ แฟนๆ ที่ติดตามอยู่หน้าจอ ก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วไปใส่บาตรยามเช้าได้เลย!
ปี 2011 คือ แคนาเดี้ยน กรังด์ปรีซ์ ที่กินเวลาอย่างยาวนาน ไม่ได้เริ่มต้นตามกำหนดการ เนื่องจากฝนตกลงมาอย่างหนัก กว่าจะออกตัวกันได้ก็เลยเวลาไปเกือบเต็มชั่วโมง ไม่มีรอบทดสอบหรือ Formation Lap และรถทุกคันต้องใช้ยางสำหรับถนนเปียก และขับตามหลังเซฟตี้คาร์ด้วยความเร็วจำกัด
ครั้งนั้น เซบาสเตียน เว็ทเทล คว้าโพลเป็นสนามที่ 6 ของฤดูกาล ตามด้วย 2 คันจาก เฟอร์รารี่ เฟร์นานโด อลอนโซ่ และ เฟลิเป้ มาสซ่า เมื่อขับออกไปได้สักพัก อุปสรรคที่นักขับพบคือสเปรย์น้ำจากล้อของคันหน้า ทำให้เกิดปัญหาด้านทัศนวิสัย จนเข้าสู่รอบที่ 5 ฝ่ายควบคุมการแข่งขันจึงประกาศให้ใช้ความเร็วเพิ่มและเริ่มแซงกันได้ และ เซฟตี้ คาร์ ก็หายไปจากหัวขบวน
เว็ทเทล ยังรักษาตำแหน่งผู้นำหลังจากผ่านโค้งแรก แต่ขบวนข้างหลัง มาร์ค เว็บเบอร์ และ ลูอิส แฮมิลตัน (ที่ตอนนั้นอยู่ในรถ แม็คลาเรน) เกี่ยวล้อกัน รถของ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง หมุนคว้าง เสียตำแหน่ง แต่ในเวลาต่อมา กลายเป็นรถของ แม็คลาเรน ที่ต้องรีไทร์ออกจากสนามในรอบที่ 7 ไม่ใช่จากเหตุการณ์ที่ปะทะเว็บเบอร์ แต่เป็นการชนกันเองกับ เจนสัน บัตตัน ที่ตามมาข้างหลัง แฮมิลตัน พยายามปิดมุม แต่โดนปีกหน้าเกี่ยวยางแตก เซฟตี้ คาร์ ออกมาอีกครั้ง ทุกคันต้องลดความเร็ว
ผ่านไป 20 รอบของการแข่งขัน แม้ บัตตัน โดนลงโทษแต่ก็ยังแซงหน้าขึ้นมาในอันดับ 7 และ เซฟตี้ คาร์ ออกมาอีกครั้ง เมื่อฝนเริ่มตกลงมาอย่างหนัก รถหลายคันวนเวียนเข้าพิตเพื่อใช้ยางสำหรับสนามเปียก ฝนยังไม่หยุดและเทลงมา จนการแข่งขันต้องหยุดชั่วครู่
ฝนตกหนักนานกว่า 2 ชม. เมื่อฝนซาจึงมีสัญญาณให้กลับมาวิ่งต่อตามหลังเซฟตี้คาร์ ซึ่งช่วงชุลมุนก่อนจะโดนสั่งหยุด อลอนโซ่ หล่นลงไปที่อันดับ 7 เมื่อกลับมาผ่านครึ่งทาง สัญญาณธงข้างสนามโบกด้วยสีเขียว เร่งความเร็วได้อีกครั้ง เว็ทเทล ยังนำหน้า แต่ข้างหลังกลายเป็น มาสซ่า และ คามุอิ โคบายาชิ ส่วน อลอนโซ่ เฉี่ยวกับ บัตตัน ที่โค้ง 3 และต้องออกจากการแข่งขันในรอบที่ 37 และใช่เลย เซฟตี้ คาร์ ออกมาอีกครั้ง
กรังด์ปรีซ์ กลับมาเข้าที่เข้าทางในรอบที่ 46 สามารถใช้ DRS ได้ รถหลายคันจึงเริ่มเปลี่ยนยาง เมื่อความชื้นลดลง จากนั้นในรอบที่ 51 ระหว่างที่ มาสซ่า และ โคบายาชิ ชิงจังหวะกัน มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ไม่รู้ว่ามาจากไหน พา เมอร์ซิเดส แซงขึ้นไปในอันดับ 2 หน้าตาเฉย
รอบที่ 56 นิค ไฮด์ฟิลด์ ทีมเรโนลต์ เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวท้ายรถ โคบายาชิ เสียการควบคุมแล้วปีกหน้าก็หลุดกระจายออกมา รถพุ่งไป Escape Road ออกจากการแข่งขัน และเซฟตี้คาร์ออกมาเป็นครั้งที่ 6 ในเรซนี้ กว่าจะกลับสู่สถานการณ์ปกติ ก็เหลือเพียง 10 รอบสนาม จากตรงนี้รถทุกคันขับเคี่ยวกันเพื่อชัยชนะสุดตัว ด้วยสภาพสนามที่ยังสะสมความชื้นหลังฝน ไม่มีใครกล้าเร่งความเร็วเนื่องจากหวั่นเกรงเส้นทางที่ตรงไม่สุด และเต็มไปด้วยกับดัก
รอบรองสุดท้าย เว็ทเทล นำหน้า บัตตันเพียง 0.9 วินาที และเมื่อเสียสมาธิเล็กน้อย ตีโค้งที่โค้ง 6 กว้างเกินไป บัตตันที่รอคอยโอกาสนี้มาตลอดก็แซงหน้าเข้าเส้นชัยไปอย่างเหลือเชื่อ เขาโดนลงโทษ 1 ครั้ง และเปลี่ยนยางอีก 5 ครั้ง ด้วยสภาพอากาศอันยากจะคาดเดา ในการแข่งขันยาวนาน 4 ชม. 4 นาที 39 วินาที (รวมช่วงเบรกเพราะฝนตกหนัก)
บัตตัน ยอมรับตามตรงว่านี่คือชัยชนะที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลังจากโดน ไดร์ฟทรู (ที่ไม่ใช่การขับรถสั่งอาหาร แต่เป็นเหมือน Long Lap Penalty ใน โมโตจีพี) และเขารอคอยโอกาสให้ เว็ทเทล ผิดพลาด ซึ่งเป็นชัยชนะอัดยอดเยี่ยมสำหรับแชมป์ แต่เป็นความทรงจำเลวร้ายสำหรับ เว็ทเทล ที่ขึ้นนำมาตลอด 69 รอบ และพลาดนิดเดียวในรอบที่ 70 ต้องจบอย่างเจ็บช้ำ แต่ก็ช้ำแค่สนามเดียว เพราะเมื่อฤดูกาลจบลง นักขับชาวเยอรมันก็คว้าแชมป์โลกได้อีกสมัย
ฟอร์มูล่า วัน แคนาเดี้ยน กรังด์ปรีซ์ วันที่ 7-9 มิ.ย. นี้ ถ่ายทอดสดทางช่อง บีอินสปอร์ตส์1 (607)
getty
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial