หลังจากการต่อสู้แย่งแชมป์อย่างร้อนแรงแบบควันไม่ทันจาง “บริติช กรังด์ปรีซ์” ก็กำลังจะเริ่มต้น ท่ามกลางสภาพอากาศอันยากจะคาดเดา และความแรงของเครื่องยนตร์
บริติช กรังด์ปรีซ์ เป็นสนามที่มีการแข่งขันสูงลิ่ว หลายทีมมีสำนักงานอยู่ที่อังกฤษ และนักขับที่เกิดในสหราชอาณาจักรมีมากมาย ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้ชมที่คลั่งไคล้ มอเตอร์สปอร์ตส์ โดยเฉพาะ ฟอร์มูล่า วัน และหลังจากสัปดาห์แห่งการต่อสู้แย่งแชมป์โลกระหว่าง แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน และ ลันโด นอร์ริส ยังกรุ่น ควันไม่ทันจาง ทุกคนก็ต้องเตรียมตัวเพื่อเดินหน้าต่อไปในสภาวะที่ยากจะคาดเดา ทั้งรถ ทั้งคน และฝนฟ้า
การแก้มือของ ลันโด นอร์ริส
นับจากการแข่งขันอันร้อนแรงในวันอาทิตย์ที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมาที่ เร้ดบูลล์ ริง ไฟอาจยังไม่มอดลงด้วยซ้ำ บริติช กรังด์ปรีซ์ ก็จะเริ่มแล้ว หากได้ชมภาพย้อนหลังในเหตุการณ์ระหว่าง แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน และ ลันโด นอร์ริส ความเห็นมากมายอาจแตกต่างกันไปถึงความผิดและความไม่เหมาะสมในสนาม ซึ่ง นอร์ริส รับโทษ 5 วินาที ก่อนที่ เวอร์สเตปเปน จะรับโทษ 10 วินาที แต่ลงท้ายที่รถของ แม็คลาเรน ไม่สามารถกลับมาแข่งต่อ ส่วน เร้ดบูลล์ พอมีคะแนนติดมือ
จบแบบไม่สวยสำหรับทุกฝ่าย และจบแบบไม่จบ เพราะหลังจากนั้น ทั้งสองนักขับและหัวหน้าทีมก็มาสุมไฟให้ร้อนแรงเข้าไปอีก อันเดรีย สเตลล่า ตำหนิ เอฟไอเอ ที่ไม่เคยลงโ?ษหนักกับ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ส่วน คริสเตียน ฮอร์เนอร์ บอกว่า ลูกทีมจะไม่มีวันเปลี่ยนสไตล์การขับ
สงครามเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น หากในซีซั่นที่ผ่านมาทุกคนเบื่อหน่ายกับการต่อสู้ของ เวอร์สเตปเปน และ แฮมิลตัน นี่คือการต่อสู้ยุคใหม่ ที่ นอร์ริส ควรทำอะไรสักอย่าง
ฟอร์มของ จอร์จ รัสเซลล์ และความต่อเนื่องของ ลูอิส แฮมิลตัน
สิ่งที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนคือ เมอร์ซิเดส พัฒนารถมาถึงจุดที่ต่อสู้กับ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง และ แม็คลาเรน ได้ หลังจากเผชิญปัญหามากมายมานานปี แต่การอัพเกรดครั้งล่าสุดทำให้เห็นว่า หากข้างหน้าพลาดท่า ข้างหลังก็พร้อมเสียบ และมันประสบความสำเร็จใน ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ รัสเซลล์ ทำได้สมความตั้งใจที่รอคอย ก่อนเข้าสู่การแข่งขันในบ้านเกิด ทันพอดี
แฮมิลตัน เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 4 ที่ เร้ดบูลล์ ริง และมีโอกาสจะขยับอันดับมากกว่านั้นเพื่อรักษาความต่อเนื่องที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต ในบรรดานักขับเจ้าถิ่น เขาคือผู้ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ แชมป์ บริติช กรังด์ปรีซ์ 8 สมัย แชมป์ติดต่อกัน 3 สมัยซ้อน 2019-2021 และตั้งแต่ปี 2014 ยังไม่เคยร่วงหล่นจากโพเดียม 2 ครั้งล่าสุดมาในอันดับ 3 โดยเมื่อปีก่อน การจัดการยางที่ผิดพลาดของ เฟอร์รารี่ ทำให้ แฮมิลตัน พุ่งแซงหน้า ชาร์ลส์ เลอแกลร์ ในรอบที่ 48 จาก 52 รอบสนาม หากทำได้อีกในปีนี้จะขึ้นโพเดียมที่นี่ 11 ปีซ้อน
สภาพอากาศอันยากจะคาดเดา
สิ่งที่ติดกระเป๋าประชากรในเกาะอังกฤษอยู่เสมอก็คือร่มและเสื้อกันฝน ผู้คนที่นั่นคุ้นเคยกับความเปลี่ยนแปลงกระทันหันของสภาพอากาศ โดยพยากรณ์อากาศสำหรับรอบฝึกซ้อม 1 และ 2 คาดไว้ว่าจะมีฝนตกลงมา ส่วนในวันถัดไป อากาศจะแจ่มใสในรอบคัดเลือก และมีฝนฟ้าคะนองในรอบสุดท้าย แต่อะไรจะเกิดขึ้นบ้างนั้นยังไม่มีใครรู้
2 ปีที่ผ่านมา สภาพอากาศที่ ซิลเวอร์สโตน เมฆครึ้ม แต่ไม่มีฝนตก การแข่งขันเป็นไปด้วยดี เพียงแค่อากาศไม่แจ่มใส กระทั่ง แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน แชมป์โลก 3 สมัยยังเพิ่งเคยคว้าแชมป์แรกที่สนามแห่งนี้เมื่อปี 2023 และในครั้งนี้ที่รถท็อป 4 ใกล้เคียงกันมากขึ้นกับความแข็งแกร่งของ เมอร์ซิเดส และคู่หูนักขับจากอังกฤษ ไม่ว่าแดดจะออกหรือไม่ ก็ยังคงร้อนแรงอยู่ดี
ฟอร์มูล่า วัน บริติช กรังด์ปรีซ์ ที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต รอบซ้อม 1 เวลา 18.30 น. รอบซ้อม 2 เวลา 22.00 น. วันที่ 5 ก.ค. นี้ ถ่ายทอดสดทางช่อง บีอินสปอร์ตส์1 (607)
getty
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial