โปรตุเกสฟอร์มโดยรวมเหนือกว่า มีลุ้นเบียดฝรั่งเศสที่มีปัญหาเรื่องเกมรุก

พรีวิวฟุตบอลยูโร 2024 รอบก่อนรองชนะเลิศ
โปรตุเกส พบ ฝรั่งเศส
สนาม : โฟล์คสพาร์คชตาดิโอน, ฮัมบูร์ก
เวลา : 02.00 น. เสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2567 (แข่งคืนวันศุกร์)
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 3 (ช่อง 603)

โปรตุเกส
โปรตุเกส โชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดีในรอบแบ่งกลุ่ม มีเพียงแค่เกมสุดท้ายที่อาจจะเสียราคาไปสักหน่อย หลังพ่ายต่อ จอร์เจีย ไป 0-2 แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะพวกเขาการันตีในการเข้ารอบน็อคเอาท์ในฐานะแชมป์กลุ่มไปเรียบร้อยแล้ว แต่ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายถือว่าน่าผิดหวังพอสมควร เพราะกว่าจะเอาชนะ สโลวีเนีย ได้ ก็ต้องรอจนถึงช่วงการดวลจุดโทษ หลัง 120 นาทีเสมอกัน 0-0 แถมในระหว่างเกมก็เล่นผิดพลาดจนเกือบโดนยิงด้วยซ้ำ นั่นทำให้ โปรตุเกส ต้องกลับมาทบทวนและยกระดับฟอร์มการเล่นให้ดีกว่านี้ เนื่องจาก ฝรั่งเศส คู่แข่งในรอบก่อนรองชนะเลิศอาจไม่ทำพลาดง่ายๆ เหมือน สโลวีเนีย

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น โปรตุเกส ไม่มีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเลยแม้แต่รายเดียว ทำให้เกมนี้ โปรตุเกส จะส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามในระบบการเล่น 4-2-3-1 แนวรุกจะยังใช้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยืนเป็นหน้าเป้าตามเดิม โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง แบร์นาร์โด้ ซิลวา, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ ราฟาเอล เลเอา ขณะที่แดนกลางจะมี วิตินญ่า และ ชูเอา ปาลินญ่า ยืนคุมเกมร่วมกัน
 
ฝรั่งเศส
ทีมตราไก่ถือว่ามีฟอร์มการเล่นที่ทั้งดีและไม่ดีในทัวร์นาเมนท์นี้ ที่ดีก็คือในเรื่องของรูปเกมที่เล่นได้ค่อนข้างไหลลื่น สร้างโอกาสได้มาก แต่จุดที่เป็นข้อเสียชัดเจนเลยก็คือความเฉียบคมในการจบสกอร์ น่าเหลือเชื่อว่าจนถึงตอนนี้ผ่านมา 4 นัด ฝรั่งเศส เพิ่งจะยิงได้แค่ 3 ประตูเท่านั้น แถมแต่ละประตูยังไม่ได้มาจากจังหวะยิงปกติเลยด้วย โดย 2 ประตูมาจากการยิงแฉลบคู่แข่งเข้าประตูตัวเอง ขณะที่อีก 1 ลูกเป็นลูกจุดโทษ ผลงานในเกมล่าสุดเฉือนชนะ เบลเยียม มาได้ 1-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นั่นทำให้ ดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ ต้องรีบแก้ปัญหาโดยด่วน หากหวังให้ ฝรั่งเศส ไปได้ไกลในยูโรคราวนี้

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ฝรั่งเศส ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเลย แต่เกมนี้จะไม่มี อาเดรียง ราบิโอต์ กองกลางที่ติดโทษแบน ทำให้เกมนี้ ฝรั่งเศส จะมีการปรับทีมเล็กน้อย ในระบบการเล่น 4-3-1-2 แนวรุกจะใช้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ มาร์กกุส ตูราม โดยมี อองตวน กรีซมันน์ ยืนเป็นเพลย์เมคเกอร์ ส่วนแดนกลางถือว่าแน่นมาก เมื่อจะมีทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ คุมเกมร่วมกับ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ และ เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โปรตุเกส (4-2-3-1) : ดีโอโก้ คอสต้า : ชูเอา กานเซโล่, เปเป้, รูเบน ดิอาส, นูโน่ เมนเดส : วิตินญ่า, ชูเอา ปาลินญ่า : แบร์นาร์โด้ ซิลวา, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ราฟาเอล เลเอา : คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ฝรั่งเศส (4-3-1-2) : ไมค์ เมญอง : ชูลส์ กุนเด้, วิลเลียม ซาลิบา, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กน็องเดซ : เอ็นโกโล่ ก็องเต้, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า : อองตวน กรีซมันน์ : มาร์กกุส ตูราม, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

ความน่าจะเป็น : เป็นการเจอกันของสองทีมใหญ่อีกคู่ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ถ้าดูสถิติในอดีตที่ผ่านมาจะเห็นว่า ฝรั่งเศส เป็นทีมที่ทำได้ดีกว่า เจอกันมา 9 ครั้ง ฝรั่งเศส ชนะไปได้ถึง 5 ครั้ง แพ้แค่หนเดียว ล่าสุดที่พบกันคือเดือนมิถุนายน 2021 ในศึกยูโร 2020 จบลงด้วยการเสมอกันไป 2-2 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถิติของ โปรตุเกส จะเป็นรอง แต่ถ้าดูที่ฟอร์มการเล่นปัจจุบันยังมองว่า ฝรั่งเศส ไม่ได้ดีกว่าเท่าไหร่นัก และในแง่ของการจบสกอร์ยังเป็น โปรตุเกส ทำได้ดีกว่า ดังนั้นเชื่อว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่สูสีกัน โอกาสออกได้ทั้งสามหน้า แต่ถ้าจะมีผู้ชนะใน 90 นาที ยังคิดว่า โปรตุเกส ยังมีภาษีดีกว่าเล็กน้อย

สกอร์ที่คาด : โปรตุเกส ชนะ ฝรั่งเศส 2-1