สเปนสภาพทีมไม่สมบูรณ์ แต่ยังดูดีกว่าฝรั่งเศสที่เกมรุกมีปัญหา

พรีวิวฟุตบอลยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ
สเปน พบ ฝรั่งเศส
สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า, มิวนิค
เวลา : 02.00 น. พุธที่ 10 กรกฎาคม 2567 (แข่งคืนวันอังคาร)
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 3 (ช่อง 603)

สเปน
ทีมกระทิงดุโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกๆ รอบที่ผ่านมา จากที่เป็นทีมนอกสายตา กลายเป็นทีมที่มีฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดแล้วในเวลานี้ และมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ยูโรครั้งนี้ไปครองมากที่สุด เพราะเมื่อเทียบกับอีก 3 ทีมที่เหลืออย่าง ฝรั่งเศส, อังกฤษ และ เนเธอร์แลนด์ แล้ว ต้องยอมรับจริงๆ ว่า สเปน คือทีมที่มีฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาและดูดีที่สุดจริงๆ โดยในรอบก่อนรองชนะเลิศที่ผ่านมา พวกเขาก็จัดการโค่นเจ้าภาพอย่าง เยอรมนี มาได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 หลังเสมอใน 90 นาที 1-1 กลายเป็นทีมที่มีเกมรุกที่ดีที่สุดของทัวร์นาเมนท์ในเวลานี้ หลังยิงไปแล้ว 11 ประตูจาก 5 เกมที่ผ่านมา

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ของ สเปน มากที่สุด เพราะเกมนี้พวกเขาจะไม่มี เปดรี้ ที่ได้รับบาดเจ็บหัวเข่ามาจากเกมที่แล้ว และต้องพักอย่างน้อย 6 สัปดาห์ ทำให้หมดสิทธิ์ช่วยทีมในเกมที่เหลือไปเรียบร้อย ขณะเดียวกันจะต้องขาดสองแนวรับตัวจริงอย่าง โรแบ็ง เลอ นอร์กม็องด์ และ ดานี่ การ์บาฆาล ที่ติดโทษแบนทั้งคู่ ทำให้เกมนี้ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ จะต้องมีการปรับทีมในบางตำแหหน่ง ในระบบการเล่น 4-3-3 แนวรุกจะยังใช้ 3 ประสานอย่าง ลามีน ยามาล, อัลบาโร่ โมราต้า และ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ เหมือนเดิม ขณะที่แดนกลางจะมีผู้เล่นอย่าง ดานี่ โอลโม่, โรดรี้ และ ฟาเบียน รุยซ์ คอยคุมจังหวะเกม ส่วนแนวรับจะใช้ เฆซุส นาบาส และ นาโช่ เฟร์นานเดซ แทนที่สองคนที่โดนแบน
 
ฝรั่งเศส
ทีมตราไก่ฟอร์มกระท่อนกระแท่นมาตลอดจริงๆ ในยูโรครั้งนี้ แม้ว่าจะลุยเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ แต่กว่าจะผ่านมาได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเกือบทุกนัด เอาตั้งแต่ในรอบแรกก็เข้ารอบน็อคเอาท์มาในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่มซะอย่างนั้น และกลายเป็น ออสเตรีย ที่คว้าแชมป์กลุ่มไป จากนั้นในรอบ 16 ทีม ก็ทำได้แค่เฉือนชนะ เบลเยียม มา 1-0 และพอในรอบก่อนรองชนะเลิศ ก็ทำได้แค่เสมอกับ โปรตุเกส 0-0 ใน 120 นาที และต้องไปตัดสินกันต่อในการดวลจุดโทษ ซึ่ง ฝรั่งเศส ยิงแม่นกว่า เอาชนะมาได้ 5-3 ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ ฝรั่งเศส ยังไม่เคยทำประตูจากจังหวะปกติได้เลยแม้แต่ลูกเดียว ซึ่งประตูที่ทำได้นั้นมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของคู่แข่ง และลูกจุดโทษเท่านั้น ข้อดีเพียงอย่างเดียวของ ฝรั่งเศส คือรูปเกมที่ยังเล่นได้ค่อนข้างไหลลื่น ขาดไปก็เพียงแค่จังหวะสังหารที่ดูไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่านั้น

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ฝรั่งเศส ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือว่าติดโทษแบนเลย ทำให้เกมนี้ ดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ สามารถจัดทีมชุดใหญ่ในระบบการเล่น 4-3-1-2 แนวรุกจะยังใช้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ มาร์กกุส ตูราม โดยมี อองตวน กรีซมันน์ ยืนเป็นเพลย์เมคเกอร์ ส่วนแดนกลางจะมีทั้ง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ คุมเกมร่วมกับ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ และ อาเดรียง ราบิโอต์ ที่พ้นโทษแบนกลับมา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สเปน (4-3-3) : อูไน ซิม่อน : เฆซุส นาบาส, นาโช่ เฟร์นานเดซ, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์, มาร์ก กูกูเรย่า : ดานี่ โอลโม่, โรดรี้, ฟาเบียน รุยซ์ : ลามีน ยามาล, อัลบาโร่ โมราต้า, นิโก้ วิลเลี่ยมส์

ฝรั่งเศส (4-3-1-2) : ไมค์ เมญอง : ชูลส์ กุนเด้, วิลเลียม ซาลิบา, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กน็องเดซ : เอ็นโกโล่ ก็องเต้, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอต์ : อองตวน กรีซมันน์ : มาร์กกุส ตูราม, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

ความน่าจะเป็น : เป็นเกมที่น่าจะสู้กันอย่างสูสีแน่นอน สองทีมนี้เคยเจอกันมาทั้งหมด 15 ครั้ง เป็น สเปน ชนะไป 6 เสมอ 2 และ ฝรั่งเศส ชนะไป 7 ถือว่าสูสีกัน แม้ว่าฟอร์มในภาพรวมเวลานี้ ฝรั่งเศส จะดูเป็นรองกว่า แต่มาถึงในรอบนี้แล้วทุกทีมต่างแข็งแกร่งทั้งหมด อยู่ที่จังหวะการเล่นในวันนั้นๆ แล้วว่าจะเข้าฟอร์มหรือไม่ อย่างไรก็ตาม สเปน ที่ทำได้ดีมาตลอด น่าจะยังเล่นแบบเดิมคือไม่ได้เน้นการครองบอลเป็นหลัก แต่จะอาศัยการจู่โจมเข้าทำแบบรวดเร็วและไม่มากจังหวะ ซึ่งจะกลายเป็นงานหนักสำหรับ ฝรั่งเศส แน่ๆ เพราะแม้ว่าเกมรับจะโอเค แต่เกมรุกนั้นไม่ไหลลื่น ดังนั้นเกมนี้อยู่ที่ประตูแรกว่าใครจะทำได้ก่อน ซึ่งเชื่อว่า สเปน ยังมีภาษีดีกว่า น่าจะเป็นฝ่ายเฉือนชนะไปได้ หรืออย่างน้อยก็ไม่น่าแพ้ใน 90 นาที

สกอร์ที่คาด : สเปน ชนะ ฝรั่งเศส 2-1