โกเมธ” ฟิตเต็มร้อยพร้อมสู้ศึก BMX โอลิมปิก

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และ นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ทีมจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ไทย ชุดโอลิมปิกเกมส์ 2024 ประกอบด้วย “เอ้” ส.ท.โกเมธ สุขประเสริฐ และ “ไนน์” นายอภิสิทธิ์ ใจอยู่ พร้อมด้วย ได้เริ่มฝึกซ้อมช่วงแรกด้วยการฝึกสปรินท์ภายในหมู่บ้านนักกีฬา เนื่องจากทางเจ้าภาพยังไม่เปิดให้นักกีฬาเข้าฝึกซ้อมในสนามแข่งขันจริง รวมทั้งยังมีโอกาสไปฝึกซ้อมที่สนามของสโมสรออสนี่ ตามคำเชิญของ นายเทศมนตรีเมืองออสนี่ ที่อยู่ห่างจาก กรุงปารีส ประมาณ 38.5 กิโลเมตร

“จากรายงานของ มร.ฮาร์วี่ เครปส์ การฝึกซ้อมในหมู่บ้านนักกีฬาเป็นเพียงการกระตุ้นกล้ามเนื้อของนักกีฬาเพื่อเตรียมสำหรับการฝึกซ้อมในสนามแข่งขันจริงที่เซนต์ เควนติน ซึ่งทางเจ้าภาพเปิดให้ฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 กรกฎาคม สำหรับโกเมธเองก็เคยสัมผัสสนามแข่งขันจริงแห่งนี้มาแล้วเมื่อครั้งที่เดินทางไปร่วมการแข่งขันรายการทดสอบระบบบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงโอลิมปิกเกมส์ 2024 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาขณะที่สภาพโดยรวมทั่ว ๆ ไป นักปั่นทั้งสองคนคือโกเมธ และอภิสิทธิ์ ต่างก็มีสภาพจิตใจและร่างกายฟิตเต็มร้อย อีกทั้งยังปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศและความแตกต่างของเวลาได้อย่างไม่มีปัญหาใด ๆ”

 นายกสองล้อไทย เปิดเผยอีกว่า สำหรับการฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการในสนามแข่งขันจริงนั้น แม้ว่าสภาพอากาศในกรุงปารีสห้วงเวลาที่ผ่านมามีฝนตกโปรยปรายลงมาทุกวันก็ไม่ส่งผลกระทบในเรื่องการฝึกซ้อมของนักกีฬาจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิง เนื่องจากเป็นสนามแข่งขันที่มีหลังคาคลุมทั้งหมด พื้นผิวแทร็คเป็นซีเมนต์ผสม และในแต่ละโค้งจะเป็นแอสฟัลต์คล้ายคลึงกับสนามบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงในสวนกีฬากมล ที่นักปั่นไทยใช้เป็นฐานการฝึกซ้อมเตรียมโอลิมปิกเกมส์มาตลอด โดยเฉพาะโกเมธตั้งเป้าว่าจะผ่านเข้าสู่รอบลึกที่สุด และถ้าโชคดีก็อาจเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งตนก็ได้กำลังใจพร้อมกำชับไปว่าขอให้สู้อย่างเต็มที่และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ผลการแข่งขันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่สำคัญอย่าประมาทและต้องดูแลตัวเองอย่าให้บาดเจ็บหรือไม่สบายอย่างเด็ดขาด

 “สำหรับรูปแบบการแข่งขันบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิง ในโอลิมปิกเกมส์ 2024 จะใช้ระบบแข่งขัน 3 โมโตในรอบแรกหรือรอบก่อนรองชนะเลิศ ในวันที่ 1 สิงหาคม แล้วนำคะแนนนักกีฬาที่ทำได้ในแต่ละโมโตมารวมกัน จากนั้นจะคัดเอาผู้ที่ได้อันดับ 1-12 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ส่วนอันดับที่ 13-20 ต้องไปแข่งขันตัดเชือกเพื่อหาอีก 4 คนที่ดีที่สุดเข้ารอบรองชนะเลิศตามไป ส่วนที่ได้อันดับ 21-24 ตกรอบทันที ในขณะที่รอบรองชนะเลิศ นักกีฬาทั้ง 16 คนจะต้องแข่งขัน 3 โมโตเช่นเดียวกันเพื่อคัดนักปั่นที่มีผลงานดีที่สุด 8 คนเข้ารอบชิงชนะเลิศ โดยรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันในวันที่ 2 สิงหาคม ต้องขอแรงใจจากพี่น้องประชาชนขาวไทยช่วยส่งกำลังใจให้นักปั่นไทยสู้ศึกในครั้งนี้ด้วย นักปั่นทุกคนจะทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย” พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย.