“อิตาเลี่ยน กรังด์ปรีซ์” จบลงแบบสุดเหวี่ยง เหวี่ยงแฟนๆ “เฟอร์รารี่” และ “แม็คลาเรน” ไปคนละทาง ด้วยความรู้สึกต่างๆ กัน แบบที่ภาพเล่าเรื่องได้ดีกว่าอะไรทั้งหมด
อิตาเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ จบลงแบบสุดเซอร์ไพรส์เมื่อคืน 1 ก.ย. ที่ผ่านมา สำหรับผู้ชมไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนทีมไหน ด้วยความรู้สึกแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าอยากเห็นรถคันไหนเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก สำหรับสาวกแม็คลาเรนก็ตั้งความหวังเอาไว้อย่างยิ่งใหญ่ แต่โดน “ม้าลำพอง” ที่กลายเป็นม้ามืดปาดหน้าเค้กไปแบบคาดไม่ถึง
WINNERs and LOSERs
WINNERs
เฟอร์รารี่
ก่อนหน้าการแข่งขันที่ มอนซ่า เซอร์กิต เฟอร์รารี่ ไม่ใช่ทีมนอกสายตา จากอันดับ 3 ในตารางคะแนนประเภททีมและที่สนามก่อนหน้าในเนเธอร์แลนด์ส ชาร์ลส์ เลอแกลร์ เพิ่งขึ้นโพเดียม ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะเป็นแรงส่งให้ขึ้นไปถึงโพเดียมอีกครั้ง หรืออาจเป็นแชมป์ได้ด้วยศักดิ์ศรีเจ้าถิ่น และมันก็เกิดขึ้นจริงๆ ด้วยแท็คติกเข้าพิตครั้งเดียว
ทีมวางแผนมาอย่างดีให้ทั้ง คาร์ลอส ไซนซ์ และ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ ใช้แผนเดียวกัน ออกสตาร์ทด้วยยางมีเดียมคอมพาวด์ และเปลี่ยนเป็นฮาร์ดคอมพาวด์ แต่ด้วยความเร็วที่ดีกว่าของ เลอแกลร์ และอันดับการออกสตาร์ทที่เข้าทางกับการชิงจังหวะทำให้ ไซนซ์ เป็นคันข้างหลังที่ต้องป้องกันตำแหน่งคันหน้า ซึ่งหากวิเคราะห์คู่แข่งมาอย่างดี ไซนซ์ และทีมงานคงรู้อยู่แล้วว่าจะกันท่าคันที่ตามมาได้นานแค่ไหน นานพอจะปล่อยให้ เลอแกลร์ ขับถนอมยางหรือไม่ ซึ่งจากผลที่ออกมาก็ถือว่า ไซนซ์ ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม อยู่ในความสำเร็จนี้เช่นกัน
LOSERs
แม็คลาเรน
เป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับทั้ง ออสการ์ ปิอัสตรี และ ลันโด นอร์ริส ที่คาดว่าอาจจะต้องแข่งกันเองเพื่อแย่งแชมป์ แต่อุปสรรคกลับมากกว่าที่คิด เมื่อต้องออกตัวด้วยการชิงจังหวะกันเอง แต่ความเชี่ยวชาญที่สนามแห่งนี้กับช่องว่างของโอกาสทำให้ เลอแกลร์ แทรกเข้ามา ไม่เพียงเท่านั้น ทีมงานก็อาจคาดไม่ถึงว่า เฟอร์รารี่ มีแผนที่ล้ำเลิศกว่า และไม่ได้เตรียมแผนสำรองอย่างแผนพิตเดียวเอาไว้ ประกอบกับอัตรการสึกหรอสูงจาก 2 ปัจจัยคือตัวรถเอง ผสมกับการขับเพื่อเร่งเครื่อง และสนามที่มีการทำพื้นผิวใหม่ ทำให้ทุกอย่างผิดจากที่คิดไว้
ปิอัสตรี ไม่ได้พูดอะไรผิดเลยเมื่อบอกว่า ทีมจะเสียทุกอย่างหากไม่ได้อะไรในสนามนี้ ขนาดได้อันดับ 2 และ 3 โกยแต้มไล่จี้ เร้ดบูลล์ แต่ความรู้สึกมันกลับเหมือนเป็นผู้แพ้ที่ไม่ได้คะแนนสักนิด ท่ามกลางความคาดหวังอันสูงลิ่ว แต่ความผิดหวังนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทั้ง นอร์ริส และ ปิอัสตรี ต้องเรียนรู้ต่อไป เพื่อความแข็งแกร่งในการชิงแชมป์ช่วงซีซั่นที่เหลือและในซีซั่นหน้า
เร้ดบูลล์ เรซิ่ง
ไม่ว่า แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน หรือ เซอร์จิโอ เปเรซ ก็ไม่สามารถพารถขึ้นโพเดียมได้เลยใน 5 สนามล่าสุด อย่างที่เห็นว่าค่ายอื่นทำได้ดีกว่า ส่วน เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ยังคงกินบุญเก่า จากแชมป์ 4 ใน 5 สนามแรกของซีซั่น ทำให้ เวอร์สเตปเปน ถึงกับตอบแบบอารมณ์เสียว่า การแก้ปัญหาของทีมที่อาเซอร์ไบจาน สนามถัดไปก็คือการเปลี่ยนรถทั้งคัน
DRIVER OF THE DAY
ชาร์ลส์ เลอแกลร์
นอกจากกลยุทธยอดเยี่ยม ฝีมือของนักขับก็เยี่ยมยอด จึงไม่น่าแปลกใจที่ เลอแกลร์ ได้คะแนนโหวต 26.4 เปอร์เซ็นต์ นำหน้า ปิอัสตรี ที่ตามมา 17.4 เปอร์เซ็นต์ เพราะนักขับออสเตรเลี่ยนก็ไม่ได้ทำอะไรผิดพลาด เว้นเพียงอย่างเดียวเมื่อวิศวกรถามว่า พิตเดียวไหวไหม? แต่เนื่องจากการขับที่ต้องไล่ล่ากระทั่งเพื่อนร่วมทีม ปิอัสตรี จึงไม่ได้ถนอมยางและคงคิดไม่ถึงเช่นกัน เป็นเศษเสี้ยงประสบการณ์ที่ต้องปรับปรุง ส่วนอันดับ 3 คาร์ลอส ไซนซ์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จก็ติดอันดับเข้ามาที่ 11.2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่รุกกี้ ฟรังโก โคลาปินโต มาในอันดับ 4 ที่ 11.1 เปอร์เซ็นต์
FASTEST LAP
ลันโด นอร์ริส
นอร์ริส ก็ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดพลาดรุนแรง และเป็นที่เข้าใจได้ว่าอาจมีรีแอ็คชั่นในช่วงออกตัวที่ยังเป็นปัญหามาหลายสนาม ประกอบกับ ปิอัสตรี สามารถใช้ความได้เปรียบจากลมดูด เมื่ออยู่ในตำแหน่งข้างหลังเล็กน้อย จึงโดนแซงตั้งแต่รอบแรก ถึงอย่างนั้น หากวัดความเร็วโดยเฉลี่ย แม็คลาเรน หมายเลข 4 ก็เป็นหนึ่งในรถที่มีความเร็วสูงที่สุดคันหนึ่ง
RADIO OF THE WEEK
CAN PEOPLE IN THE BACKGROUND PLEASE BE AWAKE!?
I KNOW THIS IS A **** POSITION BUT IT’S IMPORTANT.
“พวกทีมงานเบื้องหลังนั่นน่ะ ช่วยตื่นหน่อย !? ผมรู้ว่าตำแหน่งเราห่วย แต่มันก็สำคัญเหมือนกันนะ”
ด้วยผลงานที่ไม่ดีในรอบคัดเลือกต่อเนื่องมาถึงรอบจริงกับปัญหาที่แก้ไม่ตกมาหลายสนาม พื้นรถ การเกาะถนน และอะไรต่างๆ ทำให้บรรยากาศของทีมระดับแชมป์โลกเงียบเหงาไป และเนื่องจาก แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน ไม่พอใจที่การเข้าพิตครั้งหนึ่งเสียเวลาไปกว่า 6.2 วินาที เพราะถอดล้อหลังขวาไม่ออก ทำให้เวลาในภาพรวมแย่ลง จบด้วยอันดับ 6
อย่างไรก็ดี สิ่งนี้เป็นทั้งการพูดจาที่ฟังไม่น่ารักสำหรับนักขับถึงทีมงาน แต่ก็แสดงความเป็นมืออาชีพในตัว เวอร์สเตปเปน เช่นกัน เพราะถึงจะอันดับแย่ แต่ก็ต้องแข่งไปจนจบ และทุกสนาม ทุกคะแนนยังมีความหมาย ไม่ใช่แกล้งหลับเพราะอันดับไม่ดี
สนามถัดไป ฟอร์มูล่า วัน อาเซอร์ไบจาน กรังด์ปรีซ์ วันที่ 13-15 ก.ย. นี้ ถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์ ช่องบีอินสปอร์ตส์1 (617)
getty
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial