เชลซีฟอร์มเริ่มเข้าที่ มีลุ้นบุกชนะไบรท์ตันฉลุยเอฟเอ

พรีวิวฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ 2024-25 รอบที่ 4
ไบรท์ตัน (พรีเมียร์ลีก) พบ เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
สนาม : เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม
เวลา : 03.00 น. อาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 (แข่งคืนวันเสาร์)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 1, 4 (ช่อง 607, 610)

ไบรท์ตัน
ไบรท์ตัน ของกุนซือ ฟาเบียน เฮือร์เซเลอร์ เป็นทีมที่แพ้น้อยก็จริง แต่ก็ไม่ค่อยชนะด้วยเช่นกัน ส่วนใหญ่แล้วหนักไปทางเสมอ โดยก่อนหน้านี้มีช่วงที่ไม่แพ้ใคร 7 เกมติดต่อกันในทุกรายการ และชนะไปได้ 3 เกม อย่างไรก็ตาม 2 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีกพวกเขาแพ้รวด โดยเป็นการแพ้คาบ้านต่อ เอฟเวอร์ตัน 0-1 ต่อด้วยการบุกไปโดน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ถล่มขาดลอย 7-0 ทำให้ตอนนี้ ไบรท์ตัน เก็บไปแล้ว 34 แต้มจาก 24 เกม รั้งอยู่อันดับที่ 10 ของตาราง โอกาสในการลุ้นทำอันดับเพื่อได้โควต้า ยูโรป้า ลีก น่าจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากแล้ว

ส่วนผลงานใน เอฟเอ คัพ รอบที่ผ่านมา พวกเขาทำได้ยอดเยี่ยม เมื่อบุกไปถล่ม นอริช ซิตี้ ขาดลอย 4-0 นั่นทำให้พวกเขายังหวังทำผลงานที่ดีในรายการนี้ได้ และการได้เจอกับ เชลซี ก็ไม่ถึงกับจะไม่มีโอกาสชนะ เพียงแต่อาจจะต้องมีสมาธิมากเป็นพิเศษเท่านั้น

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ไบรท์ตัน ยังคงมีปัญหาตัวเจ็บค่อนข้างมาก โดยเกมนี้พวกเขาจะไม่มีผู้เล่นอย่าง เจมส์ มิลเนอร์, แฟร์ดี้ คาดิโอกลู, แจ็ค ฮินเชลวู้ด, อีกอร์ ฮูลิโล, เจมัน สตีล, ซอลลี่ มาร์ช และ มัตส์ วีฟเฟอร์ ที่ยังบาดเจ็บทั้งหมด แต่ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ ไบรท์ตัน จะมาในระบบ 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ ชูเอา เปโดร ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง ไซม่อน อาดิงกรา, จอร์จินโญ่ รุตแตร์, และ คาโอรุ มิโตมะ ขณะที่แดนกลางจะมี คาร์ลอส บาเลบา คุมเกมร่วมกับ ยาซิน อายารี่

เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ฟอร์มเริ่มดีขึ้นในช่วงหลัง หลังจากแพ้ไปแค่เกมเดียวจาก 6 นัดหลังสุดในทุกรายการ ที่เหลือเป็นการเสมอ 2 และชนะ 3 ผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ไม่ชนะใครมา 4 เกมติดต่อกันในช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้ ทำให้ตอนนี้พวกเขามีอยู่ 43 แต้มจาก 24 นัด รั้งอยู่อันดับที่ 4 ของตาราง โดยมีแต้มมากกว่าอันดับ 5 อย่าง แมนฯ ซิตี้ อยู่ 2 แต้ม ส่วนผลงานใน เอฟเอ คัพ รอบที่แล้วก็ทำได้ดี เมื่อเปิดบ้านถล่ม มอร์แคมบ์ ไปแบบสบายๆ 5-0 ทำให้ เชลซี ก็หวังที่จะไปได้ไกลจนถึงมีลุ้นแชมป์ใน เอฟเอ คัพ ปีนี้เช่นกัน

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เชลซี ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บอยู่บ้าง โดยเกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เบอนัวต์ บาเดียชิล, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า และ โรเมโอ ลาเวีย ที่ยังไม่หายเจ็บ ขณะที่ในรายของ มีไคโล่ มูดริค นั้นติดโทษแบน แต่ที่ส่วนเหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ เชลซี จะมาในระบบ 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ นิโกล่าส์ แจ็คสัน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์ และ เปโดร เนโต้ คอยไล่ล่าประตู ขณะที่แดนกลางจะใช้ มอยเซส ไกเซโด้ คุมเกมร่วมกับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไบรท์ตัน (4-2-3-1) : บาร์ท แฟร์บรุ๊กเก้น : โจเอล เฟลท์มัน, ยาน พอล ฟาน เฮคเค่, อดัม เว็บส์เตอร์, เปร์วิส เอสตูปิญัน : คาร์ลอส บาเลบา, ยาซิน อายารี่ : ไซม่อน อาดิงกรา, จอร์จินโญ่ รุตแตร์, คาโอรุ มิโตมะ : ชูเอา เปโดร

เชลซี (4-2-3-1) : ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น : รีซ เจมส์, โทซิน อดาราบิโอโย่, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า : มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ : โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เปโดร เนโต้ : นิโกล่าส์ แจ็คสัน

ความน่าจะเป็น : เป็นเกมที่สูสีแน่นอน เพราะต่างฝ่ายต่างเอาจริงเต็มที่ เพื่อโอกาสในการเข้ารอบต่อไป ไบรท์ตัน ได้เปรียบจากการเล่นในบ้าน แต่ผลงานในบ้านปีนี้ของพวกเขาไม่ถึงกับดีมากนัก อาจจะแพ้ไม่มาก แต่ก็เสมอเยอะเช่นกัน แถมล่าสุดชนะในบ้านได้แค่เกมเดียวจาก 8 นัดหลังสุด ที่เหลือเป็นการเสมอ 4 และแพ้ 3 แถมยังไม่ชนะในบ้านมา 5 นัดติดต่อกันแล้ว ขณะที่ เชลซี ฟอร์มในภาพรวมดีกว่ามาก แถมพวกเขาเจอกับ ไบรท์ตัน ช่วงหลังก็มักจะเอาชนะได้เสมอ ทำให้เกมนี้เชื่อว่ารูปเกมจะสูสีกัน และจะวัดกันที่ความคมในแดนหน้า ซึ่ง เชลซี ยังดูดีกว่า มีโอกาสบุกมาเฉือนชนะในเกมนี้ได้

สกอร์ที่คาด : ไบรท์ตัน แพ้ เชลซี 1-2