
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ น็อคเอาท์ เฟส เพลย์ออฟ นัดแรก แมนฯ ซิตี้ จากอังกฤษ จะเล่นที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ เรอัล มาดริด จากสเปน โดยเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ เจ้าถิ่น แม้ว่าฟอร์มช่วงหลังจะมีภาพรวมที่ไม่แย่ แต่ในรายละเอียดแล้วถือว่ายังมีปัญหาให้เห็นเป็นระยะ ขณะที่ เรอัล มาดริด มีฟอร์มที่น่าประทับใจมากกว่า ทำให้พวกเขามีลุ้นบุกมาไม่แพ้ก่อนได้เป็นอย่างน้อยในเกมนี้
พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ น็อคเอาท์ เฟส เพลย์ออฟ นัดแรก
แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) พบ เรอัล มาดริด (สเปน)
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เวลา : 03:00 น. วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 (แข่งคืนวันอังคาร)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 1 (ช่อง 607)
แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้าถือว่ายังมีฟอร์มการเล่นที่น่าพอใจในช่วงที่ผ่านมา โดยพวกเขาแพ้ไป 2 เกมจากการลงเล่น 11 เกมหลังสุดในทุกรายการ เสมอแค่ 2 และชนะไปได้ถึง 7 เกม ในฤดูกาลนี้อาจจะไม่ใช่ฟอร์มที่ดีที่สุดที่พวกเขาเคยทำได้ แต่ตอนนี้ถือว่าค่อยๆ เรียกฟอร์มที่ดีกลับมาได้ทีละนิดแล้ว ผลงานในเกมล่าสุดคือเกม เอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่บุกไปชนะ เลย์ตัน โอเรียนท์ ได้ 2-1 ส่วนผลงานในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดถือว่าเสียความมั่นใจไปพอสมควร หลังบุกไปโดน อาร์เซน่อล ถล่มขาดลอย 5-1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ มีอยู่ 41 แต้มจาก 24 เกม รั้งอยู่อันดับที่ 5 ของตาราง ดูแล้วปีนี้น่าจะมีแค่ลุ้นท็อป 4 เท่านั้น
ส่วนผลงานใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือว่าน่าผิดหวังตรงที่ไม่สามารถติดอยู่ในท็อป 8 ของตารางในรอบ ลีก เฟส ได้ แถมยังเกือบตกรอบ ไม่ได้มาเล่นในรอบเพลย์ออฟด้วยซ้ำ หลังจบรอบ ลีก เฟส ด้วยการรั้งอันดับที่ 22 เก็บได้ 11 แต้มจากผลงานชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 3 เรียกได้ว่าผ่านเข้าไปเล่นเพลย์ออฟได้แบบหวุดหวิดจริงๆ ทำให้ในรอบนี้ พวกเขาต้องเจอกับงานหนักอย่าง เรอัล มาดริด มีความเป็นไปได้เหมือนกันที่ทีมเรือใบสีฟ้าจะไปไม่ถึงรอบ 16 ทีม
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บพอควร โดยเกมนี้จะยังไม่มีผู้เล่นอย่าง ออสการ์ บ็อบบ์, โรดรี้, เนธาน อาเก้, เฌเรมี่ โดกู, นิโก้ กอนซาเลซ และ เอแดร์ซอน ที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ จะมาในระบบการเล่น 4-1-4-1 กองหน้าตัวเป้าจะใช้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ โดยมีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง ฟิล โฟเด้น, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์ และ โอมาร์ มาร์มูช ส่วนแดนกลางจะมี มาเตโอ โควาซิช เป็นตัวตัดเกม
เรอัล มาดริด
ราชันชุดขาวที่นำโดย คาร์โล อันเชลอตติ ถือว่ายังอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม พวกเขาแพ้เพียง 2 นัดจากการลงเล่น 16 เกมหลังสุดในทุกรายการ เสมอ 2 และชนะได้ถึง 12 เกมเลยทีเดียว ผลงานในเกมล่าสุดคือการเสมอกับ แอตเลติโก มาดริด 1-1 ในเกม ลา ลีกา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ทีมราชันชุดขาวยังรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ได้อยู่ จากการมีอยู่ 50 แต้มจาก 23 เกม แต่ก็นำหน้าอันดับ 2 อย่าง แอต. มาดริด อยู่แค่แต้มเดียว และนำ บาร์เซโลน่า ที่อยู่อันดับ 3 เพียง 2 คะแนนเท่านั้น เรียกได้ว่ายังต้องลุ้นเหนื่อยหากหวังจะเป็นแชมป์ ลา ลีกา ในฤดูกาลนี้
อย่างไรก็ตาม ผลงานใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีนี้ของ เรอัล มาดริด ถือว่าทำได้ต่ำกว่ามาตรฐาน หลังไม่สามารถติดอยู่ในท็อป 8 ของรอบ ลีก เฟส ได้ โดยมาดริดจบแค่อันดับที่ 11 ของตาราง เก็บได้ 15 แต้มจากผลงานชนะ 5 แพ้ 3 ขาดไปแค่แต้มเดียวเท่านั้น ไม่อย่างนั้นก็จะได้เข้ารอบ 16 ทีมไปก่อนแบบอัตโนมัติได้แล้ว ทำให้พวกเขาต้องเล่นในรอบเพลย์ออฟ แถมยังต้องเจอกับทีมแข็งอย่าง แมนฯ ซิตี้ อีกด้วย
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เรอัล มาดริด มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บพอสมควร โดยเกมนี้จะไม่มีผู้เล่นอย่าง อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาวิด อลาบา, เอแดร์ มิลิเตา และ ดานี่ การ์บาฆาล ที่ยังไม่หายเจ็บทั้งหมด แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ เรอัล มาดริด จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง โรดรีโก้, จู๊ด เบลลิงแฮม และ วินิซิอุส จูเนียร์ ส่วนแดนกลางจะมี เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ คุมเกมร่วมกับ ดานี่ เซบายอส
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-1-4-1) : สเตฟาน ออร์เตก้า : มาเตอุส นูเนส, มานูเอล อาคานจี, รูเบน ดิอาส, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล : มาเตโอ โควาซิช : ฟิล โฟเด้น, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, โอมาร์ มาร์มูช : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์
เรอัล มาดริด (4-2-3-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ : ลูคัส บาซเกซ, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, ราอูล อเซนซิโอ, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ : เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, ดานี่ เซบายอส : โรดรีโก้, จู๊ด เบลลิงแฮม, วินิซิอุส จูเนียร์ : คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้
ความน่าจะเป็น : น่าเสียดายที่ต้องมาเจอกันตั้งแต่ในรอบเพลย์ออฟ และจะมีแค่ทีมเดียวเท่านั้นที่ได้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมต่อไป แมนฯ ซิตี้ ได้เล่นในบ้านก่อนในเกมแรก ต้องพยายามทำผลการแข่งขันที่ดีให้ได้ และแม้ว่าพวกเขาจะได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์ แต่ต้องยอมรับตามตรงว่าฟอร์มของเรือใบสีฟ้ายังไม่ได้ดีเหมือนอย่างปีก่อนๆ เทียบกับ เรอัล มาดริด แล้วยังมีความอันตรายมากกว่า เชื่อว่ารูปเกมจะออกมาสูสีกัน แมนฯ ซิตี้ อาจจะครองบอลได้มากกว่า แต่ เรอัล มาดริด มีเกมรุกที่ประสิทธิภาพดีกว่า อยู่ที่ว่าใครจะคมกว่ากัน ซึ่งดูแล้วเชื่อว่าโอกาสเสมอแบบมีสกอร์มีความเป็นไปได้มากที่สุด
สกอร์ที่คาด : แมนฯ ซิตี้ เสมอ เรอัล มาดริด 1-1
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial