ราชันชุดขาวกุมความได้เปรียบ ไม่น่าแพ้คาบ้านต่อเรือใบสีฟ้า

พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ น็อคเอาท์ เฟส เพลย์ออฟ นัดที่สอง
เรอัล มาดริด (สเปน) พบ แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ)
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
เวลา : 03:00 น. วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 (แข่งคืนวันพุธ)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 1, 5 (ช่อง 607, 611)

เรอัล มาดริด
ราชันชุดขาวที่นำโดย คาร์โล อันเชลอตติ ฟอร์มแผ่วไปเหมือนกันในช่วงหลัง หลังไม่ชนะใครใน ลา ลีกา มา 2 เกมติดต่อกัน โดยเป็นการเสมอทั้งหมด นัดล่าสุดคือการบุกไปเสมอกับ โอซาซูน่า 1-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นทำให้พวกเขาโดน บาร์เซโลน่า แซงไปยึดจ่าฝูงของตารางจนได้ แม้ว่าจะมี 51 คะแนนจาก 24 เกมเท่ากัน แต่ผลต่างประตูได้เสียของ บาร์เซโลน่า นั้นเหลือกว่ามาก อีกทั้งเฮดทูเฮดก็ยังดีกว่า เรอัล มาดริด ด้วย ถือว่าเป็นความเสียหายค่อนข้างมาก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยนำบาร์ซ่าห่าง แต่กลายเป็นกลับมามีแต้มสูสีกันในช่วงใกล้จะโค้งสุดท้ายของฤดูกาล

ส่วนใน แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น ถือว่ายังทำได้ดี หลังเกมแรกบุกไปเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ มาได้ก่อนแบบสุดเซอร์ไพรส์ 3-2 เนื่องจากพวกเขาตกเป็นฝ่ายตามหลัง 2-1 ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย แต่กลับมายิงแซง 2 ประตูรวดในช่วงท้ายเกม พลิกชนะได้แบบสุดมันส์ ทำให้เกมนี้ยังกุมความได้เปรียบและได้กลับมาเล่นในบ้าน ถ้า เรอัล มาดริด ประคองดีๆ ก็มีลุ้นผ่าน แมนฯ ซิตี้ และเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ต่อไป

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เรอัล มาดริด มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บไม่มากนัก โดยเกมนี้จะไม่มีแค่ เอแดร์ มิลิเตา, ดานี่ การ์บาฆาล และ ลูคัส บาซเกซ เท่านั้นที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ เรอัล มาดริด จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง โรดรีโก้, จู๊ด เบลลิงแฮม และ วินิซิอุส จูเนียร์ ส่วนแดนกลางจะมี เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า คุมเกมร่วมกับ ดานี่ เซบายอส

แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้าฟอร์มการเล่นสวิงไม่น้อยในช่วงที่ผ่านมา หลังแพ้ไปถึง 3 เกมจาก 7 เกมหลังสุดในทุกรายการ แต่อีก 4 เกมพวกเขาก็ชนะได้ทั้งหมด ที่สำคัญ 2 จาก 3 เกมที่แพ้ดันเป็นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้งหมด ส่วนผลงานในพรีเมียร์ลีกยังถือว่าค่อนข้างดี หลังแพ้แค่เกมเดียวจาก 8 เกมหลัง ผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านถล่ม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไปขาดลอย 4-0 ในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ มีเพิ่มเป็น 44 แต้มจาก 25 เกม ขึ้นมารั้งอยู่อันดับที่ 4 ของตารางได้เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งดูแล้วปีนี้เป้าหมายของ ซิตี้ น่าจะขอแค่จบในพื้นที่ท็อป 4 ให้ได้ก็เพียงพอแล้ว

ส่วนผลงานใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือว่าน่าผิดหวังในเกมแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังแพ้คาบ้านต่อ เรอัล มาดริด 2-3 ทั้งๆ ที่นำอยู่ 2-1 ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย แต่กลับรักษาสกอร์ไว้ไม่ได้ ทำให้เกมนี้เป็นงานยากของพวกเขาทันทีในการที่จะบุกมาเอาชนะ เรอัล มาดริด ถึงถิ่น แต่กระนั้นด้วยความที่เป็นทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้ ยังทำให้พวกเขายังพอมีลุ้นที่จะพลิกสถานการณ์ได้อยู่

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บพอควร โดยเกมนี้จะยังไม่มีผู้เล่นอย่าง โรดรี้, เและ มานูเอล อาคานจี ที่ยังไม่หายเจ็บ ส่วนในรายของ ออสการ์ บ็อบบ์, เนธาน อาเก้, แจ็ค กรีลิช และ รูเบน ดิอาส ยังมีอาการเจ็บเล็กน้อย ไม่น่าจะลงเล่นได้ในเกมนี้ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 กองหน้าตัวเป้าจะใช้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ โดยมีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง ซาวินโญ่, ฟิล โฟเด้น, และ โอมาร์ มาร์มูช ส่วนแดนกลางจะมี นิโก้ กอนซาเลซ คุมเกมร่วมกับ มาเตโอ โควาซิช

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล มาดริด (4-2-3-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ : เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, ราอูล อเซนซิโอ, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ : เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า, ดานี่ เซบายอส : โรดรีโก้, จู๊ด เบลลิงแฮม, วินิซิอุส จูเนียร์ : คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : สเตฟาน ออร์เตก้า : ริโก้ ลูอิส, อับดูโคดีร์ คูซานอฟ, จอห์น สโตนส์, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล : นิโก้ กอนซาเลซ, มาเตโอ โควาซิช : ซาวินโญ่, ฟิล โฟเด้น, โอมาร์ มาร์มูช : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

ความน่าจะเป็น : เรอัล มาดริด กุมความได้เปรียบมาจากเกมแรก และเกมนี้พวกเขาได้กลับมาเล่นในบ้าน ทำให้แรงกดดันลดลง ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ต้องมาเปิดเกมบุกตั้งแต่นาทีแรกเพื่อทำประตูไล่ตีเสมอให้ได้ ทำให้เกมนี้ เรอัล มาดริด น่าจะเล่นได้ง่ายกว่า และน่าจะคอยหาจังหวะโต้กลับ จากการที่นักเตะเรือใบสีฟ้าต้องคอยดันเกมขึ้นสูง ทำให้มีพื้นที่เล่นค่อนข้างมาก รูปเกมน่าจะเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่พยายามทำเกมบุก ขณะที่ราชันชุดขาวคอยหาจังหวะโต้กลับ โอกาสสามารถออกได้ทั้ง 3 หน้า แต่เชื่อว่ามุมเสมอน่าจะมีโอกาสมากที่สุด

สกอร์ที่คาด : เรอัล มาดริด เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1