มาดริดสภาพทีมไม่สมบูรณ์ ไม่น่าชนะตราหมีที่กำลังมาแรง

พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
เรอัล มาดริด (สเปน) พบ แอตเลติโก มาดริด (สเปน)
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
เวลา : 03:00 น. วันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 (แข่งคืนวันอังคาร)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 1 (ช่อง 607)

เรอัล มาดริด
ราชันชุดขาวที่นำโดย คาร์โล อันเชลอตติ ถือว่าฟอร์มค่อนข้างดีในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็มีสะดุดแพ้อยู่บ้างเหมือนกัน โดยเฉพาะในเกม ลา ลีกา ที่พวกเขาแพ้ไปถึง 2 เกมจาก 5 นัดหลังสุด และชนะได้แค่เกมเดียวเท่านั้น จนทำให้ตกจากจ่าฝูงจนได้ หลังมีเพียง 54 แต้มจาก 26 เกม รั้งอยู่อันดับที่ 3 ของตาราง และตามหลัง บาร์เซโลน่า ที่แซงกลับไปนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้งอยู่ 3 คะแนน โดยผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปพ่าย เรอัล เบติส 2-1 ในเกม ลา ลีกา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ถ้าดูผลงานแบบรวมทุกรายการ ถือว่า เรอัล มาดริด ยังมีฟอร์มที่แข็งแกร่ง เพราะพวกเขาแพ้เพียง 2 นัดจากการลงเล่น 14 เกม และในจำนวนนี้ชนะไปถึง 10 นัดด้วยกัน โดยในส่วนของ แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาผ่านรอบ น็อคเอาท์ เฟส เพลย์ออฟ มาได้อย่างสวยงาม หลังชนะ แมนฯ ซิตี้ ได้ทั้งไปและกลับ ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 6-3 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ แต่ก็ต้องมาเจอกับคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แอตเลติโก มาดริด ถือว่าไม่ง่ายเลยที่จะผ่านรอบนี้ไปได้

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เรอัล มาดริด มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บพอสมควร โดยเกมนี้จะไม่มี เอแดร์ มิลิเตา, ดานี่ การ์บาฆาล, ดานี่ เซบายอส, เฆซุส บาเยโฆ่ และ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ที่ยังเจ็บอยู่ทั้งหมด นอกจากนี้ จู๊ด เบลลิงแฮม ยังติดโทษแบนด้วย ทำให้เกมนี้ เรอัล มาดริด จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง โรดรีโก้, บราฮิม ดิอาซ และ วินิซิอุส จูเนียร์ ส่วนแดนกลางจะมี โอเรเลียง ชูอาเมนี่ คุมเกมร่วมกับ ลูก้า โมดริช

แอตเลติโก มาดริด
ทีมตราหมีของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ผลงานยอดเยี่ยมสุดๆ ในช่วงที่ผ่านมา หลังมีช่วงที่ทำสถิติชนะรวด 15 เกมติดต่อกันในทุกรายการ และแพ้แค่เกมเดียวจากการลงเล่น 26 เกมหลังสุด ที่เหลือเป็นการชนะ 21 และเสมอเพียง 4 นัด ล่าสุดพวกเขาไม่แพ้ใครมา 10 นัดติดต่อกันแล้ว ผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านเฉือนชนะ แอธเลติก บิลเบา 1-0 ในเกม ลา ลีกา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ แอต. มาดริด เก็บไปแล้ว 56 แต้มจาก 26 นัด รั้งอยู่อันดับ 2 ของตาราง จากที่เคยเกือบหมดโอกาสในการลุ้นแชมป์ ลา ลีกา ไปแล้วเนื่องจากเคยตามหลังหัวตารางถึง 10 แต้ม มาตอนนี้พวกเขาตามหลังจ่าฝูงอย่าง บาร์เซโลน่า เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น

ส่วนผลงานใน แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น แอต. มาดริด ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบอัตโนมัติ จากการจบอันดับที่ 5 ในรอบ ลีก เฟส ด้วยผลงานชนะ 6 แพ้ 2 เก็บไป 18 คะแนน ทำให้ไม่ต้องไปเล่นในรอบ น็อคเอาท์ เฟส เพลย์ออฟ ให้เหนื่อย แต่ก็ถือว่าในรอบ 16 ทีมพวกเขาเจองานหนักไม่น้อย เมื่อต้องโคจรมาเจอกับคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง เรอัล มาดริด ที่มักจะโค่นพวกเขาได้เสมอใน แชมเปี้ยนส์ ลีก

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แอต. มาดริด มีปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มากนัก โดยเกมนี้จะไม่มีแค่ โกเก้ และ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เท่านั้นที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ทำให้เกมนี้ ทีมตราหมีจะมาในระบบการเล่น 4-4-2 แนวรุกจะใช้คู่กองหน้าอย่าง ฮูเลียน อัลวาเรซ และ อองตวน กรีซมันน์ ขณะที่แดนกลางจะมี โรดริโก้ เด ปอล คุมเกมร่วมกับ ปาโบล บาร์ริออส โดยมี ชูเลียโน่ ซิเมโอเน่ และ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เล่นเป็นตัวริมเส้น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล มาดริด (4-2-3-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ : ลูคัส บาซเกซ, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาวิด อลาบา, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ : โอเรเลียง ชูอาเมนี่, ลูก้า โมดริช : โรดรีโก้, บราฮิม ดิอาซ, วินิซิอุส จูเนียร์ : คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

แอต. มาดริด (4-4-2) : ยาน โอบลัค : นาอูเอล โมลิน่า, โรแบ็ง เลอ นอร์กม็องด์, เกลม็องต์ ลองก์เล่ต์, ฆาบี กาลัน : ชูเลียโน่ ซิเมโอเน่, โรดริโก้ เด ปอล, ปาโบล บาร์ริออส, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ : ฮูเลียน อัลวาเรซ, อองตวน กรีซมันน์

ความน่าจะเป็น : เป็นเกม "เอล เดร์บี้ มาดริเลนโญ่" ที่สูสีกันมากแน่ๆ แม้ว่า เรอัล มาดริด จะได้เล่นในบ้าน แต่ก็ไม่น่าจะมีเกมที่เหนือกว่า แอต. มาดริด มากสักเท่าไหร่ แถมตัวผู้เล่นก็ไม่สมบูรณ์ การขาดหายไปของ จู๊ด เบลลิงแฮม ที่โดนแบนจะมีผลอย่างแน่นอน ขณะที่ แอต. มาดริด ฟอร์มที่ผ่านมาถือว่าทำได้ดี และมีสภาพทีมที่สมบูรณ์กว่า ทำให้เกมนี้มีโอกาสเหมือนกันที่จะบุกมายันเสมอก่อนเป็นอย่างน้อย แล้วค่อยไปใส่เต็มที่ในบ้านของตัวเอง รูปเกมน่าจะเป็น เรอัล มาดริด ที่ครองบอลได้มากกว่า แต่ไม่น่าจะเจาะเกมรับที่เหนียวแน่นของทีมเยือนได้ และทำให้มีโอกาสสูงที่เกมนี้จะออกเสมอกันไป

สกอร์ที่คาด : เรอัล มาดริด เสมอ แอตเลติโก มาดริด 1-1