ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น D8 ผู้ยืนหยัดเท่านั้นจึงอยู่รอด

ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น แกรนด์ แสลมแรกของปี ผ่านครึ่งทางมาแล้ว เข้าสู่วันที่ 8 ของการแข่งขันในวันที่ 24 ม.ค. รอบ 4 หรือรอบ 16 คน ตามโปรแกรมแล้วตารางไม่แน่หนาเท่ากับวันแรกๆ แต่ด้วยสภาพอากาศร้อน และการผ่านศึกแบบวันเว้นวัน ทำให้วันนี้แทบทุกคู่เจอกับการต่อสู้อันยาวนาน 

ความร้อน 21-33 องศาเซลเซียสใกล้เคียงกับประเทศไทย ที่เมลเบิร์น ออสเตรเลียเป็นฤดูร้อน สำหรับชาวไทยอย่างเราอาจรู้สึกว่าปกติ แต่ต้องไม่ลืมว่าเทนนิสเป็นกีฬากล้างแจ้ง ที่นั่นต่อสู้กันกลางแสงแดด ใช้แรงกาย แรงวิ่ง แรงตี และรอบที่ 4 หมายความว่าทุกคนที่มาถึงตรงนี้ทำการแข่งขันมาแล้ว 3 เกม

คิดเวลาคร่าวๆ ฝ่ายหญิง 2 ใน 3 เซ็ตถ้าจบเร็ว จะใช้เวลาต่อเซ็ตประมาณไม่เกิน 30 นาที แต่ถ้าไม่จบง่ายอาจใช้เวลาถึง 50 นาที ส่วนฝ่ายชายที่ต้องเล่นกัน 3 ใน 5 เซ็ตหากผู้เข้าแข่งขันไม่เสียเซ็ต ก็ใช้เวลาต่อแมตช์ไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที ทั้งหมดเป็นประมาณการ ขึ้นอยู่ที่จังหวะความเร็วของเกม 

ทุกคนลงเล่นวันเว้นวัน ซึ่งหลายคนไม่จบภายใน 2 หรือ 3 เซ็ต ดังนั้นอย่าแปลกใจที่เห็นฝ่ายหญิงเล่นกันครบโควต้า 3 เซ็ตทุกคู่ ส่วนฝ่ายชายมีเพียง ยานนิค ซินเนอร์ จากอิตาลี และ อเล็ก เดอ มินอร์ จากออสเตรเลียที่จบลงใน 3 เซ็ต แต่ก็มีเซ็ตหนึ่งฟาดกันถึงไทเบรก 

ยิ่งเข้ารอบลึก ยิ่งพิสูจน์ความอึดและฝีมืออย่างแท้จริง และการเป็นมือวางที่สูงกว่าก็ไม่ได้แปลว่าต้องชนะเสมอไป เมื่อ อลิเซ่ คอร์เน่ต์ มือวางอันดับ 61 ของโลกเอาชนะ มือ 14 ในรายการอย่าง ซิโมน่า ฮาเล็ป อดีตแชมป์ 2 แกรนด์แสลมที่เคยมาถึงรอบชิงในรายการนี้เมื่อปี 2018 

คอร์เน่ต์ มีประสบการณ์ในการแข่งขันไม่น้อย อายุ 31 ปีแล้ว ผ่านรอบเมนดรอว์แกรนด์ แสลม มา 63 แมตช์ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ และชัยชนะ 2-1 เซ็ต 6-4, 6-3 และ 6-4 ทำให้เธอหลั่งน้ำตาออกมา 

เช่นเดียวกับ คาย่า คาเนพี เธออายุ 36 ปี โลดแล่นในวงการเทนนิสมายาวนาน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ แกรนด์ แสลม ด้วยชัยชนะเหนือมือวางอันดับ 2 เอรีน่า ซาบาเลนก้า 2-1 เซ็ต 5-7, 6-2 และ 7-6(10/7) ทั้งสองพร้อมมากที่จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ตัวเอง 

ฝ่ายหญิงนอกจากมือ 1 แอชลี่ บาร์ตี้ ในสายบน ตอนนี้สายล่างมี อิก้า สเวียเทค สาววัย 20 ปีเจ้าของแชมป์ เฟร้นช์ โอเพ่น เมื่อ 2 ปีก่อน ในการแข่งวันนี้เสียเซ็ตแรก แต่กลับมาเบรกเกมเอาคืนใน 2 เซ็ตหลัง 

ฝ่ายชายเดี่ยวก็ดุเดือดไม่แพ้กัน มีเพียงคู่ของ ยานนิค ซินเนอร์ มือ 11 ของรายการจากอิตาลีที่เอาชนะ อเล็กซ์ เดอ มินอร์ เจ้าถิ่น 3-0 เซ็ต 7-6(7/3), 6-3 และ 6-4 แบบสะอาดๆ หมายถึงไม่เสียเซ็ต แต่รอบก่อนหน้านี้ ซินเนอร์ เสียเซ็ตมาแล้ว 

เมื่อ อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ ตกรอบไป อีกหนึ่งเต็งที่โดดเด่นขึ้นมาคือ สเตฟานอส ซิซิปาส มือ 4 จากกรีซเอาชนะ เทย์เลอร์ ฟริตซ์ 3-2 เซ็ต 4-6, 6-4, 4-6, 6-3 และ 6-4 ไม่ได้เล่นถึงไทเบรกแต่ก็ใช้เวลาและแรงพลังไปมากจนถึงเซ็ตตัดสิน ในรอบก่อนรองชนะเลิศที่เจอกับ ซินเนอร์ ซึ่งออกแรงมาน้อยกว่าทำให้น่าดูว่าจะจบลงอย่างไร

ขณะที่ตัวเต็ง ดานีล เมดเวเดฟ ก็ยังผ่านรอบนี้ไปได้เอาชนะ แม็กซิม เครสซี่ 3-1 เซ็ต 6-2, 7-6(7/4), 6-7(4/7) และ 7-5 แบบมีออกอาการแสดงอารมณ์เล็กน้อย เพราะโดนเกมจิตวิทยา ทั้งการดึงเวลาเสิร์ฟ จนนักหวดรัสเซียเดินเข้าไปถามกรรมการว่าได้รับ ช็อตคล็อก 25 วินาทีก่อนเสิร์ฟหรือไม่ และเพราะผ่านเกมรอบก่อนๆ มาไม่น้อยทำให้ต้องเรียกนักกายภาพมาที่ข้างสนาม แถมพอใกล้จะเบรกเกมได้ อีกฝ่ายก็จะเสิร์ฟลูกสองแม่นขึ้นมาเฉยๆ 

รอบถัดไป เป็นการแก้มือรอบตัดเชือก ยูเอส โอเพ่น เมื่อปีก่อนระหว่าง เมดเวเดฟ ที่สุดท้ายแล้วเขาเข้าไปคว้าแชมป์ พบกับมือ 9 ของรายการ ฟีลิกซ์ โอเกอร์-อลิอัสซิม จากแคนาดา ดาวรุ่งวัย 21 ปีกับส่วนสูง 193 ซม. ซึ่งเล่นได้ดีทั้งแบ็คแฮนด์และโฟร์แฮนด์ แต่เขาเคยยอมรับว่าชอบเคลย์คอร์ตมากที่สุด ถึงอย่างนั้นการเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศที่ ฟลัชชิ่ง เมโดวส์ ปีก่อนก็แสดงว่าฝีมือของเขาบนฮาร์ดคอร์ทไม่ธรรมดา 

วันที่ 9 ของการแข่งขัน 25 ม.ค. รอบก่อนรองชนะเลิศเริ่มต้นขึ้นแล้ว แม้จำนวนแมตช์อาจลดลง ไม่สะใจแฟนเทนนิส แต่เชื่อได้เลยว่าความเข้มข้นจะเพิ่มขึ้นในทุกคู่ ราฟาเอล นาดาล ตามล่าแชมป์แกรนด์แสลมครั้งที่ 22 และ แอชลี่ บาร์ตี้ ไล่ล่าแสลมใหญ่ในบ้านท่ามกลางเสียงเชียร์