“บาร์ตี้” กับตำนานเพื่อชาติ หนทางของเธอยังอีกยาวไกล “นาดาล” กับการเดินทางอันยาวไกลเพื่อมาเป็นตำนาน
ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น จบลงอย่างสวยงามแบบที่เรียกได้ว่า ไม่ว่าใครจะชนะก็ล้วนสวยงาม หลังจากเริ่มต้นอย่างโกลาหล แต่ชีวิตก็ต้องไปต่อ ไม่ว่าจะมีกระแสอย่างไรการแข่งขันก็เริ่มต้นในรูปแบบของมัน
สำหรับฝ่ายหญิง แอชลี่ บาร์ตี้ เริ่มต้นอย่างแข็งแกร่ง และแข็งแกร่งตั้งแต่ต้นจนจบ ตลอดทุกรอบการแข่งขันเสียเกมไม่มาก เสียเซ็ตไม่ต้องพูดถึง นี่คือการแข่งขันที่มากกว่าการตีโต้กับคู่แข่ง เป็นอย่างที่ จิม คูร์เรียร์ บอกเอาไว้ว่า นี่คือการต่อสู้ที่ แอช แบกทั้งชาติเอาไว้บนบ่า
เทนนิสหญิงเป็นฝั่งที่มักจะเกิดการพลิกล็อกอยู่เสมอ และก็เป็นเช่นนั้นในอีกสาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมือต้นๆ หลายคนเลือกที่จะลงเล่นทั้ง 2 ประเภท เดี่ยวและคู่ ทำให้เหนื่อยล้า ส่วนบรรดามือดังไม่มีใครมาได้ไกลนัก แต่รอบชิงชนะเลิศ แดเนี่ยล คอลลินส์ คู่แข่งจากสหรัฐก็ทำให้กองเชียร์ใน เมลเบิร์น พาร์ค ถอนใจเฮือกใหญ่
หลังจากจบเซ็ตแรก บาร์ตี้ ขึ้นนำ แต่เข้าเซ็ตถัดมา คอลลินส์ นำ 5-1 หากได้อะไรคืนมาการตัดสินในเซ็ตสุดท้ายคงน่าสนุกตื่นเต้นทีเดียว เพียงแค่มันไม่ง่ายขนาดนั้น และเมื่อ บาร์ตี้ พลิกเกมกลับมาได้ โมเมนตัม กำลังใจและทุกอย่างจึงกลับมาก่อนที่ชัยชนะจะเป็นของสาวออสซี่
บาร์ตี้ มือวางอันดับ 1 ของโลกและยังเป็นต่อไป เธอคว้าแชมป์รายการที่ 15 ในอาชีพ แชมป์ แกรนด์ แสลมที่ 3 หลังจากเคยได้แชมป์ เฟร้นช์ โอเพ่น 2019 และ วิมเบิลดัน 2021 และเป็นการเอาชนะรอบชิงได้ 12 จาก 14 ครั้งล่าสุด โดย 10 ครั้งในนั้นเป็นการชนะรวดแบบไม่เสียเซ็ต
นับตั้งแต่เริ่มการแข่งขันในปี 1972 การแข่งขันจัดขึ้นที่คูยอง ลอว์น เทนนิส คลับ ที่มีที่นั่งสำหรับผู้ชม 5,000 กว่าที่นั่ง จนกระทั่งการแข่งขันโยกย้ายมาที่ เมลเบิร์น พาร์ค ซึ่งรองรับผู้ชมได้มากกว่า โดยในแมตช์ระหว่าง บาร์ตี้ และ แดเนี่ยล คอลลินส์ จากสหรัฐมีผู้ชมเข้าชมกว่า 12,000 คน ทำให้ บาร์ตี้ เป็นนักเทนนิสประเภทเดี่ยวจากออสเตรเลียคนแรกที่ได้แชมป์ใน เมลเบิร์น พาร์ค
ครั้งล่าสุดที่มีนักเทนนิสหญิงเดี่ยวเข้าชิงคือ เวนดี้ เทิร์นบูลล์ ในปี 1980 ส่วนแชมป์คนล่าสุดในประเภทเดี่ยวเป็นของ คริส โอนีล ในปี 1978 และปี 2022 บาร์ตี้ ทำให้ผู้ชมชาวออสเตรเลียสิ้นสุดการรอคอย 44 ปี
สำหรับฝ่ายชาย ตั้งแต่เริ่มต้นรายการเมื่อไม่มี โนวัค ยอโควิช ทำให้เหลือตัวเต็งคือ ราฟาเอล นาดาล, ดานีล เมดเวเดฟ และ อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ ที่คนหลังกำลังมาดีๆ อยู่ๆ ก็ชิงตกรอบไป ทั้งที่เขาอาจได้เจอ นาดาลในรอบก่อนรองชนะเลิศ
เส้นทางของ นาดาล ถึงรอบชิงดูแล้วเหมือนจะไม่หนัก แต่ก็มีเกม 5 เซ็ตที่วัดได้ว่าเขายังอึดอยู่ ส่วน เมดเวเดฟ เจอคู่แข่งที่ทำให้ต้องใช้พลังมาก แต่เขาผ่านมาโดยตลอด และเริ่ม้ตนเกมกับนักหวดชาวสเปนได้ดีมาก ขึ้นนำ 2 เซ็ต เพียงแค่ปิดไม่ลงสักที ทั้งที่เขามีเดิมพันในการขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกคนใหม่
ชัยชนะทำให้เวทีนี่คือการคัมแบ็คอย่างแท้จริงของอดีตมือ 1 โลก ก่อนหน้านี้ นักหวดวัย 35 ปีต้องถอนตัวจาก 2 แกรนด์ แสลม ปลายปี วิมเบิลดัน และ ยูเอส โอเพ่น เพราะมีอาการบาดเจ็บ ไม่ได้ลงสนาม 5 เดือน แม้ไปแข่งโชว์ก็ไม่ตอบรับว่าจะมาประเดิมปีใหม่ที่ออสเตรเลีย ด้วยเหตุผลอย่างที่เข้าใจว่า เล่นสนุกกับเล่นจริงจังแตกต่างกัน
แต่เมื่อมาถึงแล้วคงไม่มีใครไม่เอาจริง แม้เขายอมรับว่าเขาไม่ใช่หนุ่มๆ ทำให้แมตช์ 4-5 เซ็ตโหดหินกับร่างกายตัวเอง ทางออกก็คือต้องปิดเกมให้เร็ว และเขาเจอแมตช์ที่เล่นยื้อถึงเซ็ตสุดท้ายเพียงแมตช์เดียว และไม่ได้ยาวถึงไทเบรก เป้าหมายการเซฟตัวเองของเขาจึงถือว่าผ่าน
ทั้งที่เป็นแชมป์แกรนด์ แสลมมาแล้ว 20 สมัย แต่ที่ เมลเบิร์น นาดาล ได้แชมป์เดียวในปี 2009 เขาฝ่าฟันมาถึงรอบชิงชนะเลิศอีก 4 ครั้ง แต่แพ้ โนวัค ยอโควิช 2 ครั้ง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อีกครั้ง และ แสตน วาวรินก้า เอาชนะเขาได้อีกครั้ง การรอคอยอันยาวนานของเขาจบลงหลังผ่านไป 13 ปี
และหากจะนับให้มากกว่านั้น ในรอบชิงชนะเลิศปี 2007 ที่ วิมเบิลดัน กับ มิเคล ยูซนี่ นั่นคือล่าสุดที่ นาดาล ตามหลังและกลับมาเอาชนะได้ จน เมดเวเดฟ บอกว่า ตั้งใจให้ นาดาล วิ่งไล่บอลในเซ็ตสุดท้าย แต่กลายเป็นว่า นาดาล ดันแข็งแกร่งเหลือเชื่อ
แม้ตามหลังไปแล้ว 1 แกรนด์ แสลม แต่ทั้ง ยอโควิช และ เฟเดอเรอร์ ก็ยังแสดงความยินดีให้กับเพื่อนร่วมอาชีพที่เป็นศัตรูในหน้าประวัติศาสตร์ด้วยเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่ามันจะจบลงเช่นไร เทนนิส แกรนด์ แสลม ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น ก็ปิดฉากลงอย่างสวยงาม
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial