3 สิ่งที่ แรมส์ และ เบงกอลส์ ต้องต่อสู้

3 สิ่งที่ แรมส์ และ เบงกอลส์ ต้องต่อสู้
“ซูเปอร์โบวล์” ครั้งที่ 56 การต่อสู้ของ 2 ทีมที่พยายามทุกอย่างเพื่อชัยชนะในแบบของตัวเอง พวกเขามีเป็นร้อยอย่างที่ต้องวัดกัน แต่มีอยู่ 3 สิ่งที่แฟนๆ จะได้เห็นชัดๆ

ซูเปอร์โบวล์ศึกใหญ่ที่สุดประจำปีของการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล จะระเบิดขึ้นในเช้าวันจันทร์ที่ 14 ก.พ. เวลา 6.30 น. รับชมได้ทางช่อง ทรูสปอร์ต เหมือนเดิมแต่ไม่เหมือนเดิม เนื่องจากตัวเต็งทั้งหลายที่วิเคราะห์คาดการณ์ร่วงตกรอบกันไปหมด


การมาของ แรมส์ และ เบงกอลส์ จึงนับได้ว่าเป็นเซอร์ไพรส์สำหรับคนที่เชื่อในม้าเต็ง แต่สำหรับผู้เล่นหรือสตาฟฟ์โค้ช พวกเขาล้วนมีความเชื่ออยู่ลึกๆ ว่ามันไม่บังเอิญ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่วงการฟุตมาตลอดก็คือความไม่แน่นอน นี่คือเกมที่จะพลิกผันได้ทุกแมตช์ ทุกนาที และพวกเขาล้วนต้องต่อสู้ และมีอะไรบ้างที่ต้องสู้ 


แรมส์ VS เบงกอลส์ 

การต่อสู้ของ 2 แฟรนไชส์เพื่อครั้งแรก


แอลเอ แรมส์ เคยตั้งอยู่ที่ เซนต์หลุยส์ เป็นแชมป์เพียงครั้งเดียวในปี 2000 หรือซีซั่น 1999 ด้วยปัญหาหลายอย่างทำให้ทีมต้องหาเจ้าของใหม่ และคนนั้นคือ แสตน โครนกี้ มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ที่ร่ำรวยสุดขีด แถมยังแต่งงานกับทายาท วอลมาร์ท ร้านค้าปลีกขนาดมหึมาในสหรัฐ 


ปี 2009 เมื่อทีมอยู่ในมือ โครนกี้ เขามองหาลู่ทางหลายอย่างเพื่อพาทีมสู่ความยิ่งใหญ่ หนึ่งในนั้นคือการย้ายแฟรนไชส์ และหาสนามที่สมฐานะ รวบจบมาที่ ลอง แองเจลิส ดินแดนศิวิไลซ์ และ โซไฟ สเตเดี้ยม ที่เพิ่งเปิดใช้เมื่อปี 2020 ทุกอย่างกำลังจะถึงพร้อม แต่ จาเร็ด กอฟฟ์ ที่พาทีมไปไม่ถึงฝันในปี 2018 แพ้ นิว อิงแลนด์ เพเทรียตส์ และยังเมาหมัดในซีซั่นถัดมา แค่เพลย์ออฟยังไม่ได้เข้า


แรมส์ ให้โอกาส กอฟฟ์ แต่ซีซั่นต่อมาร่วงตกรอบดิวิชั่น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ เทรดเอามือเก๋าอย่าง แม็ต แสตฟฟอร์ด เข้ามายอมเสียสิทธิ์ดราฟท์เหมือนไม่สนใจจะสร้างทีมเพื่ออนาคตเพราะต้องการความสำเร็จทันที พุ่งเข้าตลาดฟรีเอเย่นต์เพื่อสร้างทีม เพราะยังไม่เคยได้แชมป์ในยุคของ โครนกี้ และไม่เคยสัมผัสมันตั้งแต่ย้ายมา แอลเอ


แต่เส้นทางของ เบงกอลส์ แตกต่างออกไป พวกเขาพยายามสร้างทีมอย่างมั่นคง แม้ผิดหวังซ้ำซาก เป็นแฟรนไชส์ที่ไม่เคยสัมผัสแชมป์ เคยเข้าชิง ซูเปอร์โบวล์ 2 ครั้งในซีซั่น 1980 และ 1988 แต่แพ้ให้ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส ทั้ง 2 รอบ


ความน่าทึงของทีมนี้อยู่ที่ พวกเขาเป็นทีมสุดห่วย 2 ซีซั่นก่อนหน้า ชนะรวมกัน 6 เกม ซีซั่น 2019 ออกสตาร์ท 7 เกมไม่เจอชัยชนะ จบฤดูกาลด้วยการเอาชนะมา 2 นัดถ้วนจนได้สิทธิ์ดราฟท์รอบแรก และเมื่อ โจ เบอร์โรว เข้าสู่ดราฟท์ในปี 2020 พวกเขาไม่ลังเลที่จะหยิบขึ้นมาเป็นคนแรก 


แต่ไม่ใช่แค่ เบอร์โรว ที่พาทีมมายังจุดนี้ เพราะก่อนหน้าที่เขาจะเข้ามาทีมพยายามเทรดผู้เล่นอายุมากออกไปหลายต่อหลายคนจนในที่สุดแทบไม่เหลือตัวเก๋า ทำให้พวกเขาคือทีมดาวรุ่งพุ่งแรงขนานแท้ 


ทีมไหนจะได้เริ่มนับหนึ่ง ฝ่ายหนึ่งต้องการความสำเร็จเร่งด่วน แต่อีกฝ่ายกำลังก้าวช้าๆ อย่างมั่นคง 


แม็ต แสตฟฟอร์ด และ คูเปอร์ คัพพ์ VS โจ เบอร์โรว และ จามาร์ เชส

ผู้เล่นที่ต้องการพิสูจน์ตัวเอง


แม็ต แสตฟฟอร์ด โด่งดังมาตั้งแต่เป็นเฟรชชี่ควอเตอร์แบ็คของ จอร์เจีย บูลด็อก และเป็นดราฟท์แรกในปี 2009 เขาอยู่ที่ ดีทรอยท์ ไลออนส์ นาน 12 ปี ทุกครั้งที่เข้าเพลย์ออฟทั้ง 3 เกมพบความพ่ายแพ้ทั้งหมด ตลอดช่วงเวลาเหล่านั้นผู้คนมากมายไม่เชื่อในฝีมือของเขา จนวันที่เขาโดนเทรดมา แอลเอ แรมส์ 


แรมส์ เทรดเอา จาเร็ด กอฟฟ์ ไปให้ ไลออนส์ และสิทธิ์ดราฟท์รอบ 3 รวมถึงดราฟท์รอบแรกของปี 2022 และ 2023 ให้ไปด้วย และในทันทีที่ลงเล่นเกมแรก เขาขว้าง 321 หลา 3 ทัชดาวน์ พาสเรต 156.1 ดีที่สุดในอาชีพพร้อมตำแหน่งผู้เล่นเกมรุกยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ 


และหลังจากย้ายแฟรนไชส์ กับเพลย์ออฟแรกในทีมที่ไม่ใช่ ไลออนส์ ทั้ง 3 เกมตั้งแต่ไวลด์การ์ดจนถึงตอนนี้ ชนะ 3 นัดรวด ตีตื้นสถิติส่วนตัวหลังซีซั่นปกติขึ้นที่ 3-3


และถ้า แอรอน ร็อดเจอร์ส มี เดวอนเท อดัมส์ ที่นี่ แสตฟฟอร์ด มี คูเปอร์ คัพพ์ ไวด์รีซีฟเวอร์ที่ทุกคนในลีกรู้ถึงพิษสงและความเร็วของเขา แต่กลับไม่มีใครหยุดเขาได้ ตลอด 4 ปีในสีเสื้อ แรมส์ สถิติของเขาถือว่าไม่เลว แต่มันขึ้นมาบนจุดสูงสุดเมื่อรับบอลจาก แสตฟฟอร์ด 


การรับบอลเข้าเป้า 32 เปอร์เซ็นต์สูงที่สุดในลีก และหากว่ากันถึงตำแหน่งว่าที่ MVP แบบตัดควอเตอร์แบ็คออกไป เขาเป็นตัวเต็งอันดับ 1 จากการคาดการของ ESPN 


โจ เบอร์โรว เข้ามาในปี 2020 เป็นดราฟท์คนแรกรอบแรก เขาพาทีม LSU เป็นแชมป์ระดับคอลเลจ กลายเป็นควอเตอร์แบ็คที่พาทีมคว้าแชมป์และได้รับเลือกเป็นเบอร์แรกคนที่ 3 ต่อจาก ไคเลอร์ เมอร์เรย์ (คาร์ดินัลส์) และ เบเกอร์ เมย์ฟิลด์ (บราวน์ส) 


ที่จริงแล้วเขาควรได้รางวัล รุกกี้เกมรุกยอดเยี่ยม แต่สัปดาห์ที่ 11 ระหว่างเล่นกับ วอชิงตัน ฟุตบอล ทีม เข้าโดนแท็คทำให้เอ็นหลังหัวเข่าฉีก จบฤดูกาลเพียงเท่านั้น แต่ก่อนเริ่มซีซั่นใหม่เขาหายดีและออกสตาร์ทตั้งแต่สัปดาห์แรก 


ที่จริง เบงกอลส์ ในฐานะอันดับ 4 ของสาย AFC ไม่น่าจะผ่าน เทนเนสซี่ ไททันส์ แต่พวกเขาก็ทำสำเร็จพร้อมสถิติโดน 9 แซ็ค โดนแซ็คมากที่สุดแต่ดันชนะเพลย์ออฟ และเป็นการเอาชนะนอกบ้านครั้งแรกของแฟรนไชส์ในประวัติศาสตร์การเพลย์ออฟอีกต่างหาก


เมื่อ แสตฟฟอร์ด มี คัพพ์ เบอร์โรว ก็มี จามาร์ เชส ทั้งสองเคยเล่นด้วยกันที่ LSU ไทเกอร์ส และเป็นแชมป์ในปี 2020 นั่นเอง แต่ด้วยอายุที่น้อยกว่า ทำให้ เชส เพิ่งตัดสินใจเข้าดราฟท์ในปี 2021 เบงกอลส์ เลือกเขาในรอบแรก อันดับ 5 จากทั้งหมด 


ความแม่นยำในการรับบอลที่ 23 เปอร์เซ็นต์ดูไม่โดดเด่น แต่การรับบอล เมื่อคำนวณด้วยคะแนนที่คาด ไม่นับการอินเตอร์เซ็ป เขาเป็นรอง คัพพ์ เพียงคนเดียว และรับลูกคอมพลีตเป็นที่ 4 ในลีก ถือว่าเป็นการเปิดตัวได้ยอดเยี่ยมในฐานะรุกกี้ 


แล้วทุกคนจะได้เห็นว่าใครคือผู้เล่นที่ดีที่สุด คู่หูที่ดีที่สุด เมื่อประสบการณ์และความคับแค้นมาพบกับดาวรุ่งไฟแรงที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจ 


ฌอน แม็คเวย์ VS แซ็ค เทย์เลอร์

เฮดโค้ชระหว่างครูและศิษย์


แม็คเวย์ อายุ 30 ปีเท่านั้นเมื่อเข้ามาเป็นเฮดโค้ชของ แอลเอ แรมส์ เป็นเฮดโค้ชที่อายุน้อยที่สุดในยุคโมเดิร์น ที่จริงแล้วเขาเป็น ไวด์ รีซีฟเวอร์ สมัยเล่นระดับคอลเลจ ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าทำไมเขาไม่เล่นอาชีพใน NFL แต่คาดเดาว่าเป็นเพราะผลงานของเขาไม่โดดเด่น


หลังจากเรียนจบ แม็คเวย์มุ่งหน้าสู่เส้นทางโค้ชอาชีพเริ่มต้นที่ แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส ในปี 2008 จากนั้นไล่เก็บประสบการณ์เรื่อยมา เขาเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง และคนที่เคยร่วมงานกับเขา ได้ดีจนเป็นเฮดโค้ชที่อื่นทั้ง แม็ตต์ ลาเฟลอร์ (แพ็คเกอร์ส) และ แบรนดอน สเตลีย์ (ชาร์เจอร์ส) แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมี แซ็ค เทย์เลอร์ อยู่ด้วย


ทั้ง ลาเฟลอร์, สเตลีย์ และ เทย์เลอร์ อายุมากกว่า แม็คเวย์ทั้งสิ้น แต่ก็ห่างกันไม่กี่ปี ซึ่ง เทย์เลอร์ บอกว่า ตลอด 2 ปีที่เป็นโค้ชไวด์รีซีฟเวอร์และโค้ชควอเตอร์แบ็คที่ ลอส แองเจลิส เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุด เขาอยากตื่นไปทำงานด้วยความท้าทายในทุกวัน


แต่ถ้า เทย์เลอร์ พยายามทำตัวเป็น แม็คเวย์ เขาคงต้องล้มเหลว เพราะทุกคนเป็นปัจเจก และเขาจะเดินหน้าในแบบของเขาเอง 


แม็คเวย์ เองก็เคยเอ่ยถึง เทย์เลอร์ ไว้ไม่น้อย ในปีที่ เบงกอลส์ ทำผลงานสุดห่วย ชนะเพียง 2 เกม และชัยชนะสัปดาห์ที่ 17 ไม่มีความหมายอะไร เพราะไม่สามารถหนีการเป็นทีมบ๊วยของลีก แต่เขาเชื่อว่าลูกน้องเก่ามีอะไรบางอย่างที่จะจุดประกายให้ได้ไปต่ออย่างยอดเยี่ยม และเขาคิดไม่ผิดเลย


เทย์เลอร์ บอกด้วยว่า แม็คเวย์ มักจะกระตุ้นคนอายุน้อยๆ ให้กล้าที่จะก้าวขึ้นมาทำงานโค้ชในรูปแบบของตัวเอง และทำอะไรสักอย่าง ต่อให้ในลีกนี้มีแนวทางปฏิบัติที่ยึดกันมา 20 ปี แต่ไม่ได้แปลว่านั่นคือหนทางเดียว มันมีทางอื่น


ตอนนี้ เทย์เลอร์ ได้รับคำชื่นชมอย่างมาก งานของเขากำลังจะประสบความสำเร็จ เหลืออีกแค่ก้าวสุดท้าย แต่ก้าวนั้นมีแค่ แม็คเวย์ ที่จะขัดขวาง นี่คือเวทีที่จะประกาศให้โลกรู้ว่าใครคือสุดยอดเฮดโค้ชรุ่นใหม่  ทุกสิ่งที่ต้องลุ้น ต้องติดตาม อย่าพลาด! เช้าวันจันทร์ที่ 14 ก.พ. เวลา 6.30 น. รับชมได้ทางช่อง ทรูสปอร์ต 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial