เซเนกัลโค่นอียิปต์ในการดวลจุดโทษ 4-2 เถลิงคว้าแชมป์แอฟริกาฯ เป็นสมัยแรก

เกมนัดชิงชนะเลิศ แข่งขันกันที่สนาม โอเล็มเบ้ สเตเดี้ยม ที่เมืองยาอุนเด้ ประเทศแคเมอรูน โดยเป็นการพบกันระหว่าง เซเนกัล และ อียิปต์ และยังเป็นการดวลกันระหว่างสองนักเตะลิเวอร์พูลอย่าง ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อีกด้วย

ครึ่งแรกเริ่มต้นไปเพียงแค่ 4 นาที เซเนกัล ก็ได้โอกาสที่จะออกนำไปก่อน ซาลิยู ซิสส์ แบ็กซ้ายของทีมพาบอลเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะโดน โมฮาเหม็ด อัลเดลโมเนม เซนเตอร์ของอียิปต์เสียบล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษทันที

แต่มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจในจังหวะนี้ เมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เดินเข้าไปบอกข้อมูลกับ โมฮาเหม็ด อาบู กาบาล นายทวารของทีม หลังเห็นว่า ซาดิโอ มาเน่ จะรับหน้าที่สังหาร ซึ่งก็ได้ผลเพราะ มาเน่ ยิงพลาดไปติดเซฟของ อาบู กาบาล ที่เดาทางถูกพุ่งปัดเอาไว้ได้ ส่งผลให้ เซเนกัล พลาดโอกาสขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย

หลังจากนั้นในนาทีที่ 28 กลายเป็นโอกาสของ อียิปต์ บ้าง เมื่อ ซาลาห์ โชว์ลีลากระชากบอลทางริมเส้นด้านขวา ก่อนจะหักเข้าเท้าซ้ายแต่ยิงได้ไม่เต็มเท้าเท่าไหร่ เอดูอาร์ เมนดี้ ของ เซเนกัล จึงรับสบาย

อียิปต์ ยังมีโอกาสอีกครั้งในช่วงท้ายครึ่งแรกจาก ซาลาห์ คนเดิม โดยคราวนี้ลองยิงไกลด้วยเท้าซ้ายข้างถนัด แต่ก็ยังไม่ผ่านมือของ เมนดี้ อยู่ดี จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันไป 0-0

เข้าสู่ครึ่งเวลาหลัง เกมก็ยังสู้กันอย่างสูสี จนมาถึงในนาทีที่ 75 เป็นโอกาสทองของ อียิปต์ ที่จะยิงประตูขึ้นนำ เมื่อ อาห์เหม็ด อาบู เอล ฟาตูห์ แบ็กซ้ายตัวเก่งได้โอกาสครอสบอลเข้าไปในเขตโทษ และเป็น ฮัมดี้ ฟาธี กองกลางได้ลอยตัวขึ้นโขก แต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

ทำให้ครบ 90 นาที ยังคงทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกัน 0-0 ต้องไปลุ้นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งโดยภาพรวม เซเนกัล ยังหาจังหวะจบสกอร์ได้มากกว่า แต่ก็ยังไม่เป็นประตู สุดท้ายครบ 120 นาที ต้องไปตัดสินกันที่การดวลจุดโทษ 

และก็เป็น เซเนกัล ที่แม่นยำกว่า เอาชนะไปด้วยสกอร์ 4-2 โดยทางฝั่ง เซเนกัล นั้นมียิงพลาดแค่คนเดียว คือ บูโน่ ซาร์ ที่ยิงเป็นคนที่ 3 ส่วนทางฝั่ง อียิปต์ พลาดถึงสองคนคือ โมฮาเหม็ด อับเดลโมเน็ม และ โมฮานัด ลาชีน ที่รับหน้าที่ยิงเป็นคนที่ 2 และ 4 ทำให้ ซาดิโอ มาเน่ ที่รับหน้าที่ยิงเป็นคนสุดท้ายยิงเข้าไปไม่พลาด ช่วยให้ "สิงโตแห่งเตรังก้า" คว้าแชมป์ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ มาครองได้เป็นสมัยแรก

ขณะที่ อียิปต์ ต้องเป็นฝ่ายที่ผิดหวังไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่พลาดแชมป์เป็นครั้งที่สองแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในปี 2017 ซาลาห์ เคยพา อียิปต์ เข้าชิงกับ แคเมอรูน และเป็นฝ่ายแพ้ไป 1-2