ฮีต vs เซลติกส์ การพบกันของสุดยอดเกมรับ

“ฮีต” แชมป์สายตะวันออก พบ “เซลติกส์” การพบกันของสองทีมที่มีเกมรับชั้นยอดที่สุดใน “เอ็นบีเอ” รอบนี้ทั้งคู่ต้องเชือดเฉือนกันที่สมดุลและประสบการณ์

เอ็นบีเอ เพลย์ออฟ

รอบชิงแชมป์สายตะวันออก

ไมอามี่ ฮีต (1) – บอสตัน เซลติกส์ (2)

เกม 1 : 7.30 น. วันพุธ 18 พ.ค. 2022
เกม 2 : 7.30 น. วันศุกร์ 20 พ.ค. 2022

เกม 3 : 7.30 น. วันอาทิตย์ 22 พ.ค. 2022

เกม 4 : 7.30 น. วันอังคาร 24 พ.ค. 2022

รอบชิงแชมป์สายตะวันออกไม่มีอะไรเหนือคาดหมาย เมื่อ 2 ทีมอันดับแรกมาพบกัน ไมอามี่ ฮีต ได้พักมากกว่า เพราะต่อสู้กับ ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส 6 เกม ขณะที่ บอสตัน เซลติกส์ ยื้อกับแชมป์เก่า มิลวอกี้ บัคส์ ถึงเกมตัดสิน ผลัดกันแพ้ชนะแบบใจหายใจคว่ำกว่าจะมาถึงตรงนี้

คงไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เมื่อ เอริค สโปเอลสตร้า เฮดโค้ช ฮีต บอกทุกอย่างไว้ในประโยคเดียวว่า “คุณจะได้เจอกับสองทีมที่หนักแน่นในเกมรับ” ซึ่งถูกต้องตรงเผง เซลติกส์ มีเกมรับที่ดีที่สุดในลีก เสียแต้มเฉลี่ย 104.5 คะแนน และ ฮีต 105.6 ทำให้คาดการคะแนนรวมอยู่ที่ 203.5 คะแนน และได้เปรียบกันเพียง 1.5 คะแนนเท่านั้น

‘หมีกริซซ์’ ไม่ยอมตาย ถล่ม GSW ลุ้นต่อเกม6

‘แมฟส์’ ถล่ม ‘ซันส์’ ยื้อตัดเชือกสายถึงเกม7

เททั่ม ซัด 46 แต้ม เซลติกส์ ยื้อ บัคส์ ต่อเกม7

ย้อนกลับไปในปี 2002 ตั้งแต่เข้าสู่ยุคช็อตคล็อกใน เอ็นบีเอ เซลติกส์ เคยคว้าชัยชนะแบบ “Ugly Win” ทำแต้มน้อย ไม่สนุกเอ็นเตอร์เทน เน้นคว้าชัย 66-64 วันนั้น พอล เพียร์ซ ทำแต้มสูงสุด 19 คะแนน โดย 6 คะแนนอยู่ใน 1.48 นาทีท้าย เกมนั้นเจอ ดีทรอยท์ พิสตันส์ แต่เกมที่รออยู่คงไม่ต่ำเตี้ยขนาดนั้น เพียงแค่ทั้งสองมีคาแร็คเตอร์ที่ทำให้การแข่งขันออกมาอึดอัด ไม่ใช่เกมที่ทั้งคู่เตรียมตัวมาใส่กันยับ

ฮีต มาในฐานะอันดับ 1 ของสาย แต่จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ทั้ง จิมมี่ บัตเลอร์ และ ไคล์ ลอว์รี่ ยังไม่ได้รับการเชิดชูอย่างที่ควร ที่จริงแล้วมีข่าวร้ายว่า ลอว์รี่ น่าจะยังไม่ปรากฏตัวในเกมแรก ส่วน บัตเลอร์ เป็นทุกอย่างทั้งเกมรุกและเกมรับ ถ้าเปรียบเทียบ เขาก็คือเครื่องยนตร์หลักที่จะขับเคลื่อนทีม แต่เนื่องจาก สโปเอลสตร้า ทำทีมมานาน นี่จึงไม่ใช่ทีมที่ใช้ผู้เล่นคนเดียวแบกสาแหรกจนไหล่แทบหัก ดังนั้นการเตรียมแผนมาประกบ บัตเลอร์ เหมือนที่พยายามปิดเกม ยานนิส อันเตโตคุมโป และ จรู ฮอลิเดย์ จึงใช้ไม่ได้

ยานนิส และ ฮอลิเดย์ สองคนรวมกันหาโอกาสทำสกอร์ให้แชมป์เก่าได้ 56 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ บัตเลอร์ คนเดียวใช้โอกาสการยิงให้ ฮีต 38.2 เปอร์เซ็นต์ นั่นไม่ได้หมายความว่าความสามารถของเขาต่ำกว่าเจ้าของรางวัลเอ็มวีพี 2 สมัย แต่หมายความว่า ฮีต มีสมดุลที่ดีกว่า มีผู้เล่นที่ทำสกอร์ได้อย่างหลากหลาย บัตเลอร์ทำ 28.7 คะแนนเฉลี่ยต่อเกม แบม อเดบาโย 14.6 และยังมีผู้เล่นสำรองยอดเยี่ยม ทายเลอร์ เฮอร์โร 13.8 คะแนน และถ้าไม่มี ลอว์รี่ ยังมี วิคเตอร์ โอลาดิโป

ขณะเดียวกัน ไมอามี่ ฮีต ที่เตรียมส่ง แบม อเดบาโย ลงมาเน้นปิดพื้นที่วงในแบบที่ทำกับ ซิกเซอร์ส ก็ไม่ใช่ทางออก เพราะ เซลติกส์ แม้เกมรับเป็นเลิศ แต่เกมวงนอกก็มีทางเลือก ขณะที่ ซิกเซอร์ส ส่อง 3 แต้ม 199 ครั้งรวมกันทั้งซีรี่ส์ แต่ เซลติกส์ ทำได้มากกว่านั้น 93 ครั้งในการเจอกับ บัคส์ และจะให้ดี เซลติกส์ ควรระวังหลังเพราะ พีเจ ทัคเกอร์ จัดการกับเกมรับได้ดีกว่าที่เคยเจอในรอบก่อนหน้า

จุดอ่อนของทั้ง ฮีต และ เซลติกส์ อยู่ที่รีบาวด์เกมรุก ซีรี่ส์ที่เจอ บัคส์ รีบาวด์รวมฝั่งแชมป์เก่า 346 เซลติกส์ 299 ครั้ง การเก็บบอลจังหวะสองและเข้าทำแม่นยำที่สุดอยู่ที่ บ็อบบี้ พอร์ทิส เกม 5 ที่ผู้เล่นของ เซลติกส์ เจ็บใจสุดขีดก็เพราะจังหวะสองของอีกฝ่ายดีกว่า แต่ถึงอย่างนั้น มาร์คัส สมาร์ท ผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยมก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะนอกจาก อเดบาโย คนอื่นไม่มีสถิติรีบาวด์ที่ดีมากนัก

แต่มีอยู่จุดเดียวที่ทั้งสองแตกต่างกันอย่างมากคือโค้ช เอริค สโมสรเอลสตร้า มีประสบการณ์สูงมาก และถ้ายังจำได้ ครั้งล่าสุดที่ ฮีต เป็นแชมป์ยุค ”บิ๊กทรี” ดีเวย์น เหวด, คริส บอช และ เลอบรอน เจมส์ ก็คือ สโปเอลสตร้า ขณะที่ ไอมี อูโดก้า ของ เซลติกมีประสบการณ์น้อยกว่า แต่ความดีคือทั้งทีมและตัวเขาเป็นรวมกันของพลังหนุ่ม การผ่านแชมป์เก่าส่งผลด้านกำลังใจ แต่ บัคส์ แตกต่างจาก ฮีต โดยสิ้นเชิง ทำให้ต้องปรับแผนใหม่ ผลของเกมแรกจึงค่อนข้างสำคัญ

โดยรวมแล้วนี่เป็นเหมือนมวยถูกคู่ กับสองทีมที่ทีมเวิร์คดี เกมรับเป็นเอกที่สุดในลีก แต่จุดที่จะเชือดเฉือนกันคือประสบการณ์และความมุ่งมั่น

ผลที่คาด : ไมอามี่ ฮีต ปิดซีรี่ส์ 4-2

NBA LOGO