GSW VS MAVS คมเฉือนคมแบบสายตะวันตก

เอ็นบีเอ เพลย์ออฟ

รอบชิงแชมป์สายตะวันตก

โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส (3) – ดัลลัส แมฟเวอริกส์ (4) 

เกม 1 : 8.00 น. วันพุธ 19 พ.ค. 2022
เกม 2 : 8.00 น. วันศุกร์ 21 พ.ค. 2022

เกม 3 : 8.00 น. วันอาทิตย์ 23 พ.ค. 2022

เกม 4 : 8.00 น. วันอังคาร 25 พ.ค. 2022

โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ผ่านเข้ามาในรอบเพลย์ออฟด้วยอันดับ 3 ทั้งที่จริงพวกเขาควรเป็นที่ 1 หรือ 2 แต่ไม่ว่ามาอย่างไร ทีมที่มี สตีเฟ่น เคอร์รี่ ก็เป็นตัวเต็ง 1 ใน 4 (ที่ตอนนี้เหลือรอดแค่ วอร์ริเออร์ส) ไม่เปลี่ยนแปลง และดูเหมือนจะพัฒนาขึ้นในทุกเกมทุกรอบ เพราะก่อนฤดูกาลปกติจบลง พวกเขามี เคลย์ ธอมป์สัน ฟิตสมบูรณ์ 

ดัลลัส แมฟเวอริกส์ ไม่ใช่ตัวเต็ง จะเรียกว่าทีมนอกสายตาก็ได้ แต่ทุกคนรู้ดีว่าทีมนี้มีการ์ดออลสตาร์ ลูก้า ดอนซิช และอดีตรุกกี้ ออฟ เดอะ เยียร์ องค์ประกอบอื่นก็ค่อนข้างลงตัว แต่ใครจะเชื่อว่าพวกเขาสามารถหักด่าน ฟีนิกซ์ ซันส์ เต็งลำดับแรกได้ 

การต่อสู้ของสายตะวันตกคือการสู้กันของทีมรับ ส่วนสายตะวันออกเป็นการสู้กันของทีมเวิร์คที่นำโดยสตาร์อันโดดเด่น แม้ในความลึกของขุมกำลัง วอร์ริเออร์ส ดูเหนือกว่าเล็กน้อย เคอร์รี่ ธอมป์สัน และ เดรย์มอนด์ กรีน เคยทำได้มาแล้ว ตอนนี้พวกเขายังมี จอร์แดน พูล และ โจนาธาน คูมิงก้า มาเสริมกำลัง ไม่ใช่ทีมแก่แบกทีมเด็กหลังหัก แต่ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวเกินไปสำหรับอีกฝ่าย เพราะในฤดูกาลปกติ แมฟเวอริกส์ เก็บชัย 3 จาก 4 ครั้งที่พบกัน แต่ต้องใส่เครื่องหมายดอกจันทร์เอาไว้ว่าในนั้น เดรย์มอนด์ กรีน ได้ลงเพียงเกมเดียว และการเทรดเอา สเปนเซอร์ ดินวิดเดิ้ล แลกกับ คริสตาป ปอร์ซิงกิส ไม่ใช่ความผิดพลาด 

วอร์ริเออร์ส เคยผ่านทั้ง นิโกล่า โยกิช ที่ทำ 31 คะแนนต่อเกม และ จา มอแรนท์ 38.3 คะแนนเมื่อเจอกันในเพลย์ออฟ ดังนั้นจึงรู้ดีว่าควรทำอย่างไรในการปิดพื้นที่ใต้แป้น เพียงแต่ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ และ เมมฟิส กริซซ์ลี่ส์ แตกต่างอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะ กริซซ์ลี่ส์ ที่แปลกมาก ฝากบอลให้ มอแรนท์ แต่กลับมีทีมเวิร์คอันเหลือเชื่อตอนที่สตาร์ของทีมบาดเจ็บ ส่วน ดอนซิช มีการประสานงานกับผู้เล่นรายอื่นได้กลมกล่อมมากกว่า ดังนั้นกระประกบทั้งตัวต่อตัวหรือดับเบิ้ลทีมเพื่อให้เล่นไม่ออก จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด 

ถึงอย่างนั้น แอนดรูว์ วิกกิ้นส์ ก็จำเป็นต้องเฝ้าระวังตามหน้าที่ให้มากที่สุด จากเกมที่เคยเจอกัน วิกกิ้นส์ ทำให้ ฟิลด์โกลของ ดอนซิช อยู่ที่ 47 เปอร์เซ็นต์ และทำให้อีกฝ่ายเสียเทิร์นโอเวอร์หลายครั้ง ขณะที่ ดไวท์ พาวล์ จะลงเล่นได้กี่นาทีให้ แมฟเวอริกส์ เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม ที่จริงแล้วเขาเป็นผู้เล่นสไตล์ที่ วอร์ริเออร์ส รับมือได้ยาก แต่ในรอบก่อนหน้ากับ ซันส์ ลงสนามมาแค่ 94 นาทีรวมทั้ง 7 เกม 

การปรับแผนที่อาจชวนให้ปวดหัวมากที่สุดของ “แมฟส์” คือการใส่ เรจจี้ บูลล็อค, โดเรียน ฟินนี่ย์-สมิธ, จาเล่น บรันสัน และ สเปนเซอร์ ดินวิดเดิ้ล มาพร้อมกัน ให้คิดภาพปีกที่พร้อมยิงจากทุกมุม ยิงไม่ได้ก็จ่ายออกไป ดังนั้นเกมนี้จึงไม่ใช่แค่การหยุด ดอนซิช แต่ต้องหยุดคนอื่นด้วยซึ่งหากกลับข้างกันนี่ก็เป็นปัญหาที่ เจสัน คิดด์ เฮดโค้ชคงเคร่งเครียดพอๆ กัน เพราะอีกฝ่ายคับคั่งด้วยสตาร์และดาวรุ่ง ขณะที่เกมรับแม้ไม่ดีที่สุด แต่ถ้าเค้นพลังออกมาสุดก็อาจได้เห็นอะไรดีๆ เหมือนที่ ซันส์ โดนทีเด็ดมาแล้ว ทั้ง เดวิน บูเกอร์ และ คริสพอล ทำฟิลด์โกลเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ แต่โอกาสขึ้นชู้ตกลับมีไม่มาก 

คิดด์ ต้อเล่นงานจุดอ่อนตรงเทิร์นโอเวอร์ วอร์ริเออร์สจัดไป 41 ครั้ง จาก 2 เกมล่าสุด ขณะที่ กริซซ์ลี่ส์ 16 เทิร์นโอเวอร์เท่านั้น นี่เป็นสาเหตุที่เกมรอบรองชนะเลิศยืดเยื้อแทนที่จะจบได้เร็ว ส่วน แมฟเวอริกส์ เฉลี่ยอยู่ที่ 13.1 ครั้ง บางทีเกมนี้คงต้องงัดเกมรับขึ้นมาให้สุดความสามารถ 

ฤดูกาลของ พูล กำลังไปได้ดี แต่พอ ธอมป์สัน กลับมา สตีฟ เคอร์ เฮดโค้ชก็คืนพื้นที่ให้ทำเอา พูล ที่อยู่ในเอ็นบีเอเพียง 3 ปี มีอาการแกว่ง แต่พอได้กลับมาเริ่มจากเกมที่ ดัลลัส ลงสนาม 27 นาทีทำ 23 คะแนนก็กลายเป็น “Splash Bro” และถ้า คิดด์ มัวแต่ส่งผู้เล่นไปปิดทาง เคอร์รี่ โอกาสจะตกเป็นของ พูล 

ขณะที่ แมฟเวอริกส์ ก็ต้องใช้ ดินวิดเดิ้ล ให้ถูกทาง เพราะตั้งแต่เทรดเข้ามา เขาทำเรื่องน่าตื่นตาหลายอย่าง ทั้งเกมรุกที่สุดจะทุ่มเท และปั้นเกมบ้าง จ่ายบ้าง เกมรับก็ไม่ขี้เหร่ เป็นอาวุธลับที่ยิงไป 30 คะแนนในเกม 7 กับ ซันส์ และหากเขาสามารถโชว์ฟอร์มระเบิด เล่นเข้ากับ บรันสัน ให้มาก นี่คือทีมที่ยากจะหยุดได้ 

ทั้งสองมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันอย่างแยกไม่ออกคือเสียงเชียร์ในบ้าน อย่างที่ เคอร์รี่ หมายมั่นว่าจะพยายามพาทีมคว้าแชมป์ให้ได้ในสนามใหม่ ส่วน ดัลลัส มีแฟนๆ ที่มีแพสชั่น แต่เมื่อต้องออกไปเยือน ไม่มีใครอยากยอมแพ้ คู่นี้อาจจะแลกหมัดกันได้

ผลที่คาด : วอร์ริเออร์ส เฉือนเกม 7