โมนาโก กรังด์ปรีซ์ ตรีเพชรแห่งวงการ มอเตอร์สปอร์ต

โมนาโก กรังด์ปรีซ์ รายการที่ทุกคนเฝ้ารอคอยกำลังจะกลับมาอีกครั้ง มั่นใจได้เลยว่าไม่ใช่เพียงแฟนๆ เท่านั้นที่ตื่นเต้น เพราะบรรดาทีมงานและนักขับก็เช่นกัน นี่คือหนึ่งในรายการระดับ “ตรีเพชร” แห่งวงการมอเตอร์สปอร์ตเทียบเท่า อินเดียนาโปลิส 500 และ เลอ มองส์ 24 ชั่วโมง ด้วยสถานที่ที่สวยงามเป็นเอกและแตกต่างจากการแข่งขันทั้งหมด เป็น สตรีท เซอร์กิต หรือถนนที่ใช้สัญจรในวันปกติของราชรัฐโมนาโก 

การแข่งขันที่นี่เริ่มต้นเป็นครั้งแรกเมื่อ 14 เม.ย. 1929 หรือตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่อยมาจนปัจจุบัน และถ้าฝรั่งเศสมีสมาคมคนรักการแข่งรถ โมนาโก ภายใต้การปกครองของเจ้าชาย หลุยส์ เดอซ์ ก็จัดตั้งสมาคมคนรักรถแห่งมอนติ คาร์โล ขึ้นมาเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถจดทะเบียนอย่างเป็นทางการในระดับนานาชาติเนื่องจากสถานะการเป็นประเทศที่ไม่ชัดเจน หรือเป็นเพียงเขตปกครองหนึ่งของฝรั่งเศสในตอนนั้น และไม่มีการแข่งขันระดับชาติ ทำให่ หลุนส์ ชิรง นักขับมอเตอร์สปอร์ตยุคนั้นคิดที่จะจัดการแข่งขันโดยใช้ถนนหนทางจริง เมื่อลองมองดูแล้วพบว่าพอเป็นไปได้จากแผนผังเมือง 

แรกเริ่ม รายการนี้เป็นรายการแข่งที่นักขับต้องได้รับเชิญ แต่หลายปีหลังจากนั้น สนามแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในเรซระดับชิงแชมป์ยุโรปร่วมกับ กรังด์ปรีซ์ ที่เบลเยี่ยม อิตาลี สเปน และฝรั่งเศส จนถึงปี 1945-1947 ไม่มีการแข่งขันเนื่องด้วยภาวะสงครามโลก หลังจากนั้นสนามแห่งนี้ก็เป็นพยานในความสำเร็จของบรรดานักขับทุกยุคสมัยทั้งอดีตแชมป์โลก ฮวน มานูเอล ฟานโจ้ และ เกรแฮม ฮิลล์ เจ้าของฉายา “มิสเตอร์ โมนาโก” ที่เคยเป็นแชมป์สนามนี้ 5 ครั้งและเป็นเพียงคนเดียวที่เป็นแชมป์ “ตรีเพชรยอดมงกุฎ” (Triple Crown of Motorsport) รวมถึงการต่อสู้อันดุเดือนระหว่าง อแล็ง พรอสต์ และ อายร์ตัน เซนน่า ลงท้ายที่ เซนน่า คว้าแชมป์ ฟอร์มูล่า วัน ในโมนาโกมากสมัยที่สุด 6 ครั้ง โดยเป็นชัยชนะรวด 5 ปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 1989-1993

ช่วงทศวรรษ 1960 เมื่อเกิดโศกนาฏกรรมที่ฝรั่งเศส มีผู้ชมเสียชีวิตจากอุบัติเหตุใน บูกัตติ เซอร์กิต โมนาโก ก็ปรับตัวให้ทันสมัยและมีความปลอดภัยต่อผู้ชมมากขึ้น เนื่องจากเป็นสตรีท เซอร์กิต ที่มีคนดูอยู่ตลอดสองฝั่งถนน และบนท่าเรือ ทำให้มีการติดตั้งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ส่วนดาดฟ้าหรือระเบียงนอกโรงแรมก็สามารถรับชมได้ แต่เป็นมุมสูง และเหล่านักขับรู้กันดีว่า หน้าถนนแคบกว่าปกติรวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ แตกต่างจากเรซทั่วไป ทำให้ที่นี่ใช้ความเร็วเฉลี่ยได้ต่ำที่สุดในปฏิทินการแข่งตลอดปี เฉลี่ยไม่เกิน 190 ไมล์ต่อชม. 

ไม่ว่าจะพยายามดูแลด้านความปลอดภัยแค่ไหนก็มีเรื่องเศร้า คาร์ล เวนด์ลิงเกอร์ นักขับ เซาเบอร์ ชาวออสเตรียเกิดอุบัติเหตุในอุโมงเมื่อปี 1994 จากนั้นไม่ได้กลับมาลงแข่งอีกทั้งฤดูกาล แม้กลับมาในปี 1995 ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิม ฟอร์มแย่ลงและไปแข่งขันในประเภทอื่นอย่าง ทัวริ่ง คาร์ และ จีที คาร์ 

นักขับยุคปัจจุบันที่เป็นแชมป์สนามนี้มากที่สุดคือ ลูอิส แฮมิลตัน 3 สมัยในปี 2008 2016 และ 2019 ส่วนทีมที่เป็นแชมป์มากที่สุดคือ แม็คลาเรน 15 ครั้ง และ แดเนี่ยล ริคคาร์โด้ ก็เคยคว้าแชมป์มาแล้ว แต่ผลงานของ ริคคาร์โด้ ในซีซั่นนี้น่าเป็นกังวลมาก มี 11 คะแนน ต่างจาก ลันโด้ นอร์ริส ที่ขึ้นโพเดียมมาแล้วมี 39 คะแนน และเป็นความหวังของทีม 

ขณะที่ เฟอร์รารี่ เคยพารถเข้าเส้นชัย 10 สมัย แถมในฤดูกาลนี้เครื่องยนตร์แรง การออกแบบรถที่ยอดเยี่ยม และนักขับชาวโมนาโกที่รู้จักสนามในบ้านเป็นอย่างดี ชาร์ลส์ เลอแกลร์ ก็มีความมุ่งมั่นอย่างมาก การได้แชมป์ที่นี่ถือว่าสำคัญหลังจากสนามก่อนต้องออกจากการแข่งขันด้วยความผิดพลาดทางเทคนิค และโดน แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน แชมป์โลกสมัยล่าสุดทำคะแนนสะสมในซีซั่นนี้แซงหน้าไปทั้งที่พยายามรักษาตำแหน่งมาตลอด ซึ่งหาก เลอแกลร์ เป็นแชมป์ได้สำเร็จ เราอาจได้เห็นอีกจุดเปลี่ยนของฤดูกาลอย่างคาดไม่ถึง และเป็นที่น่าสนใจว่า เฟอร์รารี่ ที่พยายามพาตัวเองกลับมาสู่ยุครุ่งเรืองจะแก้ไขปัญหา พาวเวอร์ ยูนิต อย่างไร ปลายทางของทีมจะจบลงตรงไหนกับการเก็บคะแนนและประสบการณ์การลุ้นแชมป์ไปพร้อมๆ กันท่ามกลางปัญหามากมาย 

การแข่งขัน โมนาโก กรังด์ปรีซ์ เริ่มต้น 27 พ.ค. นี้ รอบซ้อมรอกแรกเวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดไปจนถึงรอบสุดท้าย ช่วงเวลาทั้งหมดเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่แฟนๆ จะเฝ้าหน้าจอรอดูว่าใครจะเป็นเจ้าสนามที่แท้จริงทางช่อง ทรูสปอร์ต1 (666)