5 ตัวเต็งแชมป์ ดิ โอเพ่น

เมเจอร์ ดิ โอเพ่น เริ่มต้นขึ้นแล้ว ระหว่างที่การแข่งขันวันแรกดำเนินไป แฟนๆ อาจได้เห็นฟอร์มอันยอดเยี่ยมของโปรหลายรายที่ผ่านรอบคัดเลือกเข้ามาร่วมรายการ ส่วนโปรชื่อดังทั้งหลายเริ่มออกตัวช่วงบ่ายแก่ๆ เกือบเย็น ไปถึงเวลาหัวค่ำของประเทศไทย 

เนื่องจากเป็นรายการเมเจอร์ที่ทั้งเก่าแก่ และเป็นเมเจอร์สุดท้ายของปี ทำให้ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก เพราะ เซนต์ แอนดรูว์ โอลด์ คอร์ส จะเป็นเวทีใหญ่ครั้งสุดท้ายของปฏิทิน 2022 ที่ทุกคนจะได้โ๙ว์ของ และแสดงฝีมืออย่างเต็มที่ แต่ใครคือตัวเต็งที่จะครอบครองเกียรติยศครั้งนี้

คอลิน โมริคาวะ

โปรชาวสหรัฐคว้าแชมป์แบบเหนือความคาดหมายเล็กน้อยหลังจากเข้าร่วม ดิ โอเพ่น ครั้งแรกเมื่อปี 2021 และคว้าแชมป์ได้เลย ทั้งที่สถิติอ้างอิงต่างๆ บอกว่า ดิ โอเพ่น เป็นเมเจอร์ที่ต้องใช้ประสบการณ์สูงมาก แถมยังต้องกล้าแลก ตีบุกเพื่อสะสมแต้มในวันแรกๆ และแชมป์เก่าใน 10 ครั้งล่าสุดก็เริ่มต้นได้ดีด้วยอันเฉลี่ยที่ 3.6 ด้วยการพัตต์เฉลี่ยที่อันดับ 8.0 ซึ่งสนามนี้อาจเข้าทาง โมริคาวะ ด้วยเกมสั้นที่ดี หากพัตเตอร์ทำงานน่าทึ่งใน 2 วันแรก แฟนๆ อาจเห็นแชมป์ 2 สมัยซ้อนที่ไม่ได้เห็นมานานนับตั้งแต่ เปแดร็ก แฮร์ริงตัน ในปี 2007 และ 2008

จอร์แดน สปีธ

ครั้งแรกที่มาร่วมรายการนี้ สปีธ ยังอยู่ในวัยทีน และคว้าแชมป์ได้เมื่อปี 2017 แม้อายุมากขึ้น แต่อดีตมือ 1 โลกยังมีแพสชั่นในกีฬานี้อย่างเต็มเปี่ยม และเพิ่งจบในตำแหน่งท็อป 5 ที่สกอตติช โอเพ่น ฟอร์มโดยรวมล่าสุดค่อนข้างดี แต่ฤดูกาลนี้พัตเตอร์ไม่ค่อยทำงาน ทำให้น่าจะต้องเร่งเครื่องอีกนิดจากการจบท็อป 10 ที่ 5 รายการในซีซั่นนี้ และหวังว่าจะไม่จบในตำแหน่งรองแชมป์อย่างเมื่อปีก่อน 

แม็ตต์ ฟิตซ์แพทริค

ด้วยความเป็นชาวอังกฤษ เขาจึงจะได้รับเสียงต้อนรับแซ่ซ้องในฐานะแชมป์เมเจอร์ล่าสุด ยูเอส โอเพ่น 2022 และฟอร์มยังมาแรงต่อเนื่องจากการจบเป็นท็อป 10 ใน 6 รายการที่ผ่านมา โดยสัปดาห์ก่อนหน้านี้ สกอตติช โอเพ่น จบด้วยอันดับ 6 ร่วม ผลงานที่พัฒนาอย่างมากคือการตีขึ้นกรีน เปรียบเทียบกับ 2 ซีซั่นก่อนหน้า และแรงตีก็เพิ่มขึ้นทำให้ลูกบอลมีความเร็วกว่าเดิมถึง 6.5 ไมล์/ชม. เทียบกับปี 2020 

แซนเดอร์ ชอฟเฟเล่

เจ้าของแชมป์ 2 รายการล่าสุดใน พีจีเอ ทัวร์ ทราเวเลอร์ส แชมเปี้ยนชิพ และ สกอตติช โอเพ่น โหมโรงก่อนมาที่ เซนต์ แอนดรูว์ แม้ผ่านมานานแล้วตั้งแต่ ฟิล มิเคลสัน คว้าแชมป์ สกอตติช ต่อด้วย ดิ โอเพ่น เมื่อปี 2013 เขาอาจได้เป็นคนถัดไป เพราะตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา เขาสามารถจบท็อป 10 ในเมเจอร์ได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 เป็นรองเพียง บรู๊คส์ โคเอปก้า และ รอรี่ แม็คอิลรอย (12 ครั้ง) และหวังว่า ชอฟเฟเล่ ตื่นจากฝันร้ายในปี 2018 ที่เป็นผู้นำหลังจบรอบสาม แต่ได้อันดับ 2 ร่วมในวันสุดท้าย 

รอรี่ แม็คอิลรอย

เต็งหนึ่งของรายการในปีนี้ อดีตแชมป์ปี 2014 ที่ห่างจากการคว้าแชมป์เมเจอร์ไปนาน แต่ทำผลงานได้ดีมากในซีซั่นที่ผ่านมา รั้งอันดับ 4 ในรายการสะสมคะแนน FedEx Cup ของศึก พีจีเอ ทัวร์ แต่หากนับคะแนนใน Official Wprld Golf Ranking เขาเก็บแต้มได้มากกว่าใคร เมื่อเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมาเพิ่งคว้าแชมป์ อาร์บีซี แคนาเดี้ยน โอเพ่น และจบด้วยตำแหน่งท็อป 10 ในปีนี้ถึง 7 รายการ ติดอันดับตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ทั้ง 3 เมเจอร์ก่อนหน้า แต่ไม่สำเร็จ หากบรรลุผลในครั้งนี้ และถ้า สกอตตี้ เชฟเฟลอร์ ทำผลงานไม่สู้ดี การกลับสู่มือ 1 โลกก็อยู่แค่เอื้อม 

ม้ามืด 

สกอตตี้ เชฟเฟลอร์

ที่จริงแล้วเขาควรเป็นตัวเต็งในฐานะมือ 1 โลก แต่หลังจากคว้าแชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส ฟอร์มก็ไม่ดีเท่าที่ควร (ยกเว้นอันดับ 2 ใน ชารล์ส ชวาบ ชาลเลนจ์ และ ยูเอส โอเพ่น) ส่วนแชมป์อีก 3 รายการที่ได้มาในปีนี้ก็เกิดขึ้นก่อนหน้าผลงานที่ ออกัสต้า และเขารู้ดีว่าเขาเป็นมือ 1 โลกแค่ในนาม เป็นตัวเต็งหรือเปล่า ไม่แน่ใจ แต่น่าจะไม่ค่อยมีใครสนใจเขาเท่าไร และที่ผ่านมา คนที่เคยได้แชมป์เมเจอร์นี้ขณะที่เป็นมือ 1 โ,กก็มีแค่ ไทเกอร์ วูดส์ เท่านั้น

ไทเกอร์ วูดส์ 

หนึ่งเดียวที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร ไทเกอร์ ถอนตัวจาก ยูเอส โอเพ่น เพราะปัญหาอาการบาดเจ็บ แต่กลับมายังสนามที่เขาเคยได้แชมป์ 2 ครั้ง ปี 2000 และ 2005 ด้วยวัย 46 ปีมีประสบการณ์ท่วมท้น แม้มีโอกาสไม่มากแต่มีสถิติบ่งชี้ที่น่าสนใจ นับตั้งแต่ปี 2011 มีแชมป์ที่อายุเกิน 40 ปีมากถึง 6 ราย และนับตั้งแต่ปี 2010 อายุเฉลี่ยของแชมป์รายการนี้อยู่ที่ 38.9 ปี ขณะที่ค่าเฉลี่ยอายุแชมป์ ยูเอส โอเพ่น ในกรอบเวลาเดียวกันอยู่ที่ 20.5 ปี อันที่จริง แฟนๆ รู้ดีว่าสภาพร่างกายของเขาไม่เหมือนเดิม และค่อนข้างห่างไกลการคว้าแชมป์ แต่ทุกคนหวังอย่างยิ่งว่าเขาจะอยู่ครบทุกรอบและจบด้วยอันดับที่ดีที่สุดในฐานะตำนาน