“สมิธ” ซิวแชมป์ “ดิ โอเพ่น” ครั้งที่ 150 พร้อมสร้างสถิติใหม่ที่ เซนต์ แอนดรูว์ ซัด 5 เบอร์ดี้รวด กลายเป็นโปรจากออสเตรเลียที่คว้าเมเจอร์นี้ตั้งแต่ปี 1993 ส่วน “รอรี่” ตีต่ำกว่าพาร์แต่ยังดีไม่พอ และ “โปรเพชร” มาแรงรอบสุดท้ายจบอันดับ 11 ร่วม
คาเมร่อน สมิธ คว้าแชมป์ ดิ โอเพ่น กอล์ฟ ครั้งที่ 150 ไปครองได้สำเร็จเมื่อ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา และกลายเป็นโปรชาวออสเตรเลียคนแรกที่คว้าแชมป์เมเจอร์รายการนี้นับตั้งแต่ปี 1993 ถัดจาก เกร็ก นอร์แมน ด้วยฟอร์มแรงแซงหน้าผู้นำรอบก่อนทั้ง วิคเตอร์ ฮอฟแลนด์ และ รอรี่ แม็คอิลรอย แชมป์ปี 2014 ที่ต้องรอคอยเมเจอร์ที่ 5 ในอาชีพต่อไป
สมิธ เริ่มต้นตามหลังผู้นำ 4 สโตรค ออกตัวใน 9 หลุมแรกได้อย่างไม่เสียหายกับ 2 เบอร์ดี้ เมื่อเข้าสู่หลุม 10 ทำเบอร์ดี้ 5 หลุมรวดไปถึงหลุม 14 สร้างประวัติศษสตร์ทำเบอร์ดี้ต่อเนื่องมากที่สุดที่สนามแห่งนี้ และเนื่องจากอยู่กลุ่มก่อนหน้าผู้นำจึงเล่นอย่างไร้แรงกดดัน เมื่อเหลืออีก 3 หลุมท้ายทำสกอร์ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งบนลีดเดอร์บอร์ด 8 อันเดอร์พาร์ ในรอบนี้ สกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 268
ขณะที่โปรชาวไอร์แลนด์เหนือเริ่มต้น 9 หลุมแรกโดยไม่มีโบกี้เช่นกัน เก็บ 1 เบอร์ดี้ในหลุมที่ 5 และเมื่อเข้าสู่ 9 หลุมหลังก็เริ่มต้นที่เบอร์ดี้หลุม 10 และพยายามประคองตัวมาตลอดด้วยการเซฟพาร์ และเล่นด้วยความกดดันเล็กน้อย แม้ไม่ผิดพลาดแต่ไม่มีสกอร์เพิ่ม และเมื่อถึงหลุมสุดท้าย ต้องทำอีเกิ้ลเพื่อโอกาสตีเสมอไปเพลย์ออฟ ก็ไม่สามารถทำได้ จบเป็นอันดับ 3 ด้วยสกอร์รวม 18 อันเดอร์พาร์ 270
อันดับ 2 เป็นของ คาเมร่อน ยัง รุกกี้จากสหรัฐที่ทำเพิ่ม 7 อันเดอร์พาร์ในรอบสุดท้าย อีเกิ้ลในหลุม 18 ทำให้สกอร์แซงหน้า แม็คอิลรอย และ ฮอฟแลนด์ อีกหนึ่งผู้นำร่วมที่วันก่อนหน้านี้ไม่เสียโบกี้เลย ตีเกินพาร์ใน 9 หลุมแรก มี 1 โบกี้จากหลุม 4 แม้แก้คืนมาจากหลุม 12 แต่หลุม 13 ก็เสียโบกี้อีกครั้ง และยังเสียเพิ่มที่หลุม 16 จบด้วยสกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 274 เป็นอันดับ 4 ร่วม ทำอันดับได้ดีที่สุดในการเล่นเมเจอร์
“โปรเพชร” สดมภ์ แก้วกาญจนา ซึ่งตีเกินพาร์ในรอบสามโชว์ฟอร์มได้ดีในวันสุดท้าย ทำอีเกิ้ลที่หลุม 5 และทำ 6 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ เก็บ 7 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 277 สกอร์เท่ากับ ทายเรลล์ ฮัตตัน จากอังกฤษ ดีน เบอร์เมสเตอร์ จากแอฟริกาใต้และ อับราฮัม อันเซอร์ จากเม็กซิโก คว้าอันดับ 11 ร่วม
มือ 1 โลก สกอตตี้ เชฟเฟลอร์ เริ่มวันสุดท้ายด้วยอันดับ 5 ร่วมมีลุ้นอยู่ไกลๆ แต่ออก 9 หลุมแรกไม่มีเบอร์ดี้ เสีย 3 โบกี้ ครึ่งหลังทำ 2 เบอร์ดี้ 1 โบกี้ รวมเสีย 3 โอเวอร์พาร์ในรอบนี้ สกอร์รวมจบด้วยอันดับ 21 ร่วมเท่ากับโปรอีก 6 ราย หนึ่งในนั้นคือ แม็ตต์ ฟิตซ์แพทริค แชมป์ ยูเอส โอเพ่น คนล่าสุดจากอังกฤษ
ภาพถ่ายทอดสด
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial