“แม็กซ์” โชว์ฟอร์มแรงจาก P10 คว้าแชมป์ “ฮังกาเรี่ยน กรังด์ปรีซ์” ตามด้วย “รัสเซลล์” และ “แฮมิลตัน” จาก เมอร์ซิเดส กอดคอขึ้นโพเดียมอีกครั้ง “เฟอร์รารี่” อกหัก
แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน นักขับจาก เร้ดบูลล์ เรซิ่ง คว้าแชมป์ ฮังกาเรี่ยน กรังด์ปรีซ์ เมื่อ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา เป็นแชมป์สนามที่ 28 ในอาชีพ หลังจากออกสตาร์ทด้วยอันดับ 10 เพราะปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนตร์ในรอบคัดเลือกวันก่อน ตามด้วย จอร์จ รัสเซลล์ เจ้าของโพลทีม เมอร์ซิเดส และเพื่อนร่วมค่าย ลูอิส แฮมิลตัน
รัสเซลล์ เริ่มต้นด้วยตำแหน่ง โพล โพสิชั่น ออกตัวอย่างไร้ปัญหา ตามด้วย คาร์ลอส ไซนซ์ และ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ จาก เฟอร์รารี่ ที่ตั้งเป้าว่าจะคว้าแชมป์สนามนี้ แต่เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยที่ท้ายขบวนเมื่อ อเล็กซ์ อัลบอน นักขับไทยทีม วิลเลี่ยมส์ โดนเบียด ทำให้ต้องรีบเข้าพิตตั้งแต่รอบแรก เสียตำแหน่งกลับไปรั้งท้ายพร้อมกับสัญญาณธงเหลือง
แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน อยู่กลางขบวนในอันดับ 10 ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 8 และทำอันดับขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงรอบที่ 12 อยู่ในอันดับ 5 ส่วนเพื่อนร่วมทีม เร้ดบูลล์ เซอร์จิโอ เปเรซ รายงานว่ามีปัญหาบางอย่างกับเครื่องยนตร์ แต่ก็พยายามพารถไปต่อ และขึ้นมาเป็นอันดับ 7 ในรอบเดียวกัน จากนั้นไม่นานก็แซง ลันโด นอร์ริส ขึ้นมาเป็นอันดับ 6
เกิดการเปลี่ยนตำแหน่งเล็กน้อยเมื่อการแข่งขันผ่านไปเกือบถึง 1 ใน 3 กลุ่มผู้นำเริ่มเข้าพิตเพื่อเปลี่ยนยาง เพราะกลุ่มเมฆที่ก่อตัวจนเหมือนฝนจะตกเริ่มบางเบาและท้องฟ้าเริ่มมีสีกว่าเทาทมึนในช่วงก่อนหน้าทำให้หลายทีมปรับแผน
รอบที่ 31 เลอแกลร์ ที่ตามหลังมาพักใหญ่อาศัยจังหวะทางตรงแถวจุดออกสตาร์ทเปิด DRS และแซงขึ้นเป็นผู้นำ แต่หลังจากนั้นไม่นานฝนก็ตกปรอยๆ ลงมาทำให้สนามเปียกและลื่น ยูกิ ทซึโนดะ เป็นคันแรกที่หมุนขวางแทร็คในรอบที่ 36 ทำให้ฝ่ายควบคุมการแข่งขันให้สัญญาณธงเหลือง กลุ่มผู้นำจึงใช้โอกาสนี้เข้าพิตเปลี่ยนยางโดย เวอร์สเตปเปน และ เร้ดบูลล์ เป็นคันแรก แต่ไม่นานเท่าไรท้ายรถก็สะบัดหมุน ซึ่งน่าจะเกิดจากการควบคุมล้อหลังและสนามที่ค่อนข้างลื่น
ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลก 7 สมัยขยับขึ้นมาเป็นผู้นำในรอบที่ 50 หลังจากออกสตาร์ทด้วยอันดับ 7 และพยายามประคองตัวมาตลอด ส่วน เลอแกลร์ ที่ขึ้นไปนำได้และเสียตำแหน่งตกลงมาเป็นอันดับ 3 อยู่ๆ ก็โดนเรียกให้เปลี่ยนยางอีกครั้ง จากยางฮษร์ดเป็นซอฟต์ เมื่ออันดับร่วงลงมา ทำให้โดนตั้งคำถามเรื่องความผิดพลาดทางกลยุทธ
เข้าสู่รอบที่ 56 เวอร์สเตปเปน ขึ้นเป็นผู้นำครั้งแรกในการแข่งขัน และแม้มีการเปลี่ยนอันดับไปมาอีกแต่เมื่อถึงรอบ 58 เวอร์สเตปเปน ก็ไม่เสียอันดับและค่อยๆ ทำเวลาห่างจาก รัสเซลล์ ที่ตามหลังเพิ่มขึ้นเกือบ 10 วินาที และเมื่อเหลือ 3 รอบสุดท้าย แฮมิลตัน แซงเพื่อนร่วมทีมขึ้นมา แต่ตอนนั้นเอง วัลเตรี่ บ็อตตาส ทีมอัลฟ่า โรเมโอ ก็ต้องจอดรถไว้ระหว่าง เซคเตอร์ 2 และ 3 ออกจากการแข่งขัน มีสัญญาธงเหลือง
รอบสุดท้ายธงเขียวทำให้รถทุกคันเร่งเครื่องเต็มที่ และชัยชนะเป็นของ เวอร์สเตปเปน พร้อมกับตำแหน่งนักขับยอดเยี่ยมประจำวันที่แฟนๆ โหวตให้ทางเว็บไซต์ FORMULA1.com แฮมิลตัน ตามหลัง 7 วินาทีพร้อมกับทำ Fastest Lap และอันดับ 3 เป็นของ รัสเซลล์ ส่วน เฟอร์รารี่ เข้ามาในอันดับ 4 และ 6 เนื่องจาก เลอแกลร์ ไม่สามารถแซง เปเรซ ที่อยู่อันดับ 5 ในรอบสุดท้าย ขณะที่ อเล็กซ์ อัลบอน จบด้วยอันดับ 17 ยังไม่มีคะแนนเพิ่มในสนามนี้
ภาพถ่ายทอดสด
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial