"บิ๊กฮง" ชนะเลือกตั้ง! นั่งเก้าอี้ "นายกสอยคิว" เป็นสมัยที่ 2

โดยมีผู้ที่สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งมาร่วมประชุม จำนวน 13 สโมสร จากทั้งหมด 15 สโมสร ประกอบด้วย การท่าเรือ, ชมรมบิลเลียดสนุกเกอร์ธนาคารออมสิน, กสท.โทรคมนาคม (CAT & TOT), ชมรมสนุกเกอร์การนิคมอุตสาหกรรม (กนอ.), ชมรมกีฬาบิลเลียดสนุกเกอร์สมาคมสโมสรการประปาส่วนภูมิภาค, ชมรมบิลเลียดสนุกเกอร์การไฟฟ้าภูมิภาค, ชมรมพนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญศรีราชา, สมาคมอัสสัมชัญ, แม็กซ์ บี สนุกเกอร์ แอนด์ พูลเฮาส์, สมาคมศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียล, ราชกรีฑาสโมสร และราชกรีฑาสโมสร โปโล คลับ ส่วนสโมสรที่ไม่ได้ส่งผู้แทนมาร่วมการเลือกตั้ง ได้แก่ ชมรมสนุกเกอร์ศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย กับ ราชกรีฑาสโมสร ซึ่งได้มีการแจ้งล่วงหน้ามาก่อนแล้ว

ส่วนผลการลงคะแนนเลือกตั้งแบบลับ ปรากฏว่า “บิ๊กฮง” นายสุนทร เป็นฝ่ายชนะ “เอสวัน” ไป ด้วยคะแนน 9-4 เสียง ได้เป็นนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน มีวาระดำรงตำแหน่งอีก 4 ปี

หลังชนะการเลือกตั้ง “บิ๊กฮง” กล่าวว่า การทำงานที่ผ่านมาตนไม่เคยมีผลประโยชน์ใดๆ แม้แต่บาทเดียว ส่วนอีก 4 ปีข้างหน้า จะเดินหน้าพัฒนาวงการสอยคิวอย่างเต็มที่ และพร้อมน้อมรับข้อเสนอแนะข้อติติงจากทุกฝ่ายเพื่อนำมาพัฒนาสมาคมฯ ส่วนการจัดแมตช์แข่งขันตอนนี้ก็ถือว่าเยอะพอสมควรเพราะมีแมตช์แข่งเดือนละ 2 ครั้ง ส่วนกรรมการชุดใหม่ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงบ้างโดยจะเชิญผู้ที่มีความสามารถเข้ามาร่วมกันทำงาน

“ส่วนศึกสนุกเกอร์ 6 แดง ชิงแชมป์โลก” ที่ไทย เป็นเจ้าภาพในเดือน ก.ย.นี้ ทาง เจสัน เฟอร์กูสัน ประธานสมาคมกีฬาบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก แจ้งว่า ถ้าเสร็จสิ้นการเลือกตั้งให้แจ้งเขาทันที เขาพร้อมสนับสนุนให้เราจัดรายการที่ยิ่งใหญ่ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย จะช่วยสนับสนุนเพียงไหน เพราะสมาคมฯ มีงบประมาณไม่เพียงพอ สปอนเซอร์ก็หายาก เพราะเศรษฐกิจไม่ดีจากพิษไวรัสโควิด-19 แต่ผมก็จะพยายามอย่างเต็มที่” บิ๊กฮง กล่าว