FIA แจงดราม่า ธงแดงที่ มอนซ่า ไม่จำเป็น

สหพันธ์ยานยนตร์นานาชาติหรือ เอฟไอเอ แถลงการเกี่ยวกับเหตุการณ์ใน อิตาเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ รอบสุดท้ายเมื่อ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังต้องจบเรซใน 2 รอบท้ายโดยมีเซฟตี้คาร์นำหน้าและใช้เพียงธงเหลือง ไม่มีการเรียกธงแดงให้หยุดการแข่งขัน เพื่อให้ทุกคันกลับไปเข้าพิตและรอสัญญาณแข่งต่อ

ที่ มอนซ่า เซอร์กิต ในปี 2022 ไม่มีอุบัติเหตุรุนแรงเหมือนกับปีก่อน แต่มีรถที่ออกจากการแข่งขันหลายคัน คันแรกเป็นของ แอสตัน มาร์ติน โดย เซบาสเตียน เว็ทเทล จอดรถที่ข้างทางในรอบที่ 12 แต่ไม่ขวางมาบนสนาม และเป็นสัญญาณของ เวอร์ช่วล เซฟตี้ คาร์ ให้นักขับลดความเร็วลง 40 เปอร์เซ็นต์ และห้ามแซง จนกว่าจะจัดการยกรถออกไป

เวลาต่อมา แอสตัน มาร์ติน และ แลนซ์ สตรอลล์ ก็ออกจากการแข่ง เช่นเดียวกับ เฟร์นานโด อลอนโซ่ ทีมอัลพีน โดยทั้งสองพารถเข้าพิต และไม่กลับออกมาแข่งต่อ แต่ในรอบที่ 47 จาก 53 รอบ รถหมายเลข 3 ของ แดเนี่ยล ริคคาร์โด้ ทีมแม็คลาเรน จอดอยู่ในเซคเตอร์ 2 และขวางแทร็คบางส่วน แต่การย้ายรถที่ออกจากการแข่งขันเป็นไปอย่างล่าช้า มีธงเหลืองอยู่หลายรอบก่อนที่เซฟตี้คาร์จะออกมาใน 2-3 รอบท้าย และจบการแข่งขันโดยไม่มีใครทำความเร็วช่วงท้ายได้

กลุ่มผู้นำ แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน แชมป์โลกจาก เร้ดบูลล์ เรซิ่ง นำหัวขบวนตามด้วย ชาร์ลส์ เลอแกลร์ ความหวังของ เฟอร์รารี่ และ จอร์จ รัสเซลล์ ทีมเมอร์ซิเดส สองในสามเข้าพิตเปลี่ยนยางพร้อมความหวังที่จะทำความเร็วไล่หวดกันตอนท้าย แต่ก็ไม่เกิดขึ้น

เอฟไอเอ แถลงว่า “เราพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเคลื่อนย้ายรถหมายเลข 3 ออกไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้การแข่งขันกลับมาเป็นปกติ สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ทีมงานไม่สามารถย้ายรถไปไหนได้ โดยพยายามแล้วที่จะผลักรถไปข้างถนน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด และเหตุการณ์นี้ไม่ได้สลักสำคัญอะไรที่จะต้องให้สัญญาณธงแดง การจบเรซด้วยเซฟตี้คาร์ เป็นไปตามข้อกำหนดระหว่างเอฟไอเอและผู้เข้าแข่งขัน การส่งรถเซฟตี้คาร์ออกมาเป็นไปตามกระบวนการปกติ”