“เปเรซ” ฝ่าวิกฤตท่ามกลางอุบัติเหตุ เซฟตี้คาร์ และปัญหาเครื่องยนตร์ คว้าแชมป์ “สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์” ส่วน “แม็กซ์” มีแต้ม แต่ยังไม่ได้ฉลองชัยนักขับโลกสมัยสอง
เซอร์จิโอ เปเรซ นักขับ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง คว้าแชมป์สนามที่ 2 ของฤดูกาลนี้ที่ สิงค์โปร์ กรังด์ปรีซ์ เมื่อ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางอุบัติเหตุตลอดการแข่งขันและปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนตร์ที่ต้องต่อสู้จนจบ หลังชิงตำแหน่งจากเจ้าของโพล ชาร์ลส์ เลอแกลร์ ตั้งแต่ออกตัว และตำแหน่งสุดท้ายบนโพเดียมเป็นของ คาร์ลอส ไซนซ์ อีกหนึ่งนักขับจาก เฟอร์รารี่
ก่อนเริ่มรอบแข่งขันที่ มารีน่า เบย์ สตรีท เซอร์กิต มีฝนตกลงมาในตอนบ่ายถึงเย็น ทำให้ยังมีน้ำขังในบางพื้นที่และสนามยังเปียก รถทุกคันจึงออกสตาร์ทด้วยยางอินเตอร์มีเดียท และทันทีที่สัญญาณไฟเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว เซอร์จิโอ เปเรซ พุ่งขึ้นนำ ส่วน คาร์ลอส ไซนซ์ ชิงจังหวะขยับมาเป็นอันดับ 3 แซงหน้า ลูอิส แฮมิลตัน
ผ่านไป 8 รอบ โจว กวนยู เกิดอุบัติเหตุ และต้องจอดรถข้างทางเลยโค้งมาไม่มาก นิโคลัส ลาติฟี ที่อยู่ใกล้เฉี่ยวล้อหน้าขวาของรถ อัลฟ่า โณเมโอ ยากแตก ทำให้ต้องรีบเข้าพิต แต่ก็ไม่สามารถกลับมาแข่งได้ ออกจากการแข่งขัน และรถเซฟตี้ คาร์ ออกมาวิ่ง
รอบที่ 26 ระหว่างเข้าโค้ง8 อเล็กซ์ อัลบอน เลี้ยวไม่พ้น ปักหัวรถเข้ากับที่กั้น ทำให้หลังจากถอยออกมาปีกหน้าติดอยู่ และต้องออกจากการแข่งขันอีกคัน ทีมเวิลเลี่ยมส์ไม่สามารถเก็บแต้มได้ในสนามนี้ ขณะที่ทีมอัลพีนก็เจอปัญหาทางเทคนิค เฟร์นานโด อลอนโซ่ ออกไปก่อน จากนั้น เอสเตบัน โอคอน ก็จอดรถ มีควันออกมาจากล้อหลังขวา
แฮมิลตัน เสียตำแหน่งในรอบที่ 33 เมื่อเข้าโค้ง หวดกับที่กั้น แม้สามารถถอยออกมาและกลับเข้าสู่การแข่ง แต่ก็เสียอันดับใน ลันโด้ นอร์ริส จากนั้นต้องรีบเข้าพิตไปเปลี่ยนชิ้นส่วนปีกหน้าและ ออกมาในอันดับ 9 จากนั้น 3 รอบถัดมา เซฟตี้ คาร์ ก็ออกมาอีกครั้ง เมื่อ ยูกิ ทซึโนดะ ที่เพิ่งมีประสบการณ์ที่สิงคโปร์ครั้งแรก ต้องออกจากการแข่งไปอีกคัน เพราะพุ่งชนที่กั้น
ระหว่างนี้ รถหลายคันทยอยเข้าเปลี่ยนยาง เป็นยางมีเดียมและซอฟต์ เนื่องจากพื้นสนามเริ่มแห้ง เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ผู้อำนวยการแข่งจึงประกาศให้แข่งต่อภายในเวลาจำกัด 30 นาที แทนที่ 24 รอบที่เหลือ แต่หากไม่มีอุบัติเหตุอีก ก็จะแข่งได้จบตามเวลา บวกกับรอบสุดท้ายอีกรอบ
เมื่อสัญญาณไฟเป็นสีเขียว แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน พยายามเร่งเครื่องแซงแต่เสียการควบคุม โดยก่อนหน้านี้มีการสื่อสารกับทีมว่ารู้สึกถึงความผิดปกติเกี่ยวกับเบรก เมื่อถอยออกมาจึงต้องรีบเข้าพิต แต่ยังไม่ยอมรีไทร์และออกมาขับต่อเพื่อพยายามทำคะแนนให้ได้
จอร์จ รัสเซลล์ ที่เริ่มต้นไม่ดีจากกริดอันดับ 11 ร่วงลงไปเกือบท้ายแถว พยายามทำอันดับกลับขึ้นมา แต่เฉี่ยวกับรถของ มิค ชูมัคเกอร์ ยางแตก ต้องขับแบบประคองเพื่อไปเปลี่ยนยางในพิต ออกมารั้งท้ายที่อันดับ 14 โดยในสนามนี้มีรถที่แข่งไม่จบมากถึง 6 คัน
กลุ่มผู้นำ เปเรซ สื่อสารกับทีมว่ามีปัญหากับเครื่องยนตร์และเริ่มโดน เลอแกลร์ไล่จี้เข้ามา แต่แม้มีปัญหา ในช่วง 10 นาทีท้าย นักขับเม็กซิกันยังสามารถรักษาเวลาและตำแหน่งไว้ได้ แต่เนื่องจากการกระทำที่อาจฝ่าฝืนกฎเมื่อมีเซฟตี้คาร์วิ่งอยู่ในช่วงแรกของการแข่งทำให้จะโดนตรวจสอบในภายหลัง จากนั้นเมื่อเหลือ 2 นาทีท้ายก็นำห่าง เลอแกลร์ 5.859 วินาที
ก่อนจะเข้าช่วง 30 วินาทีท้าย เวอร์สเตปเปน แซงหน้า แฮมิลตัน ที่เข้าโค้งกว้างจนเกิดช่องให้แซง และขึ้นมาเป็นอันดับ 8 จากนั้นก็แซง เซบาสเตียน เว็ทเทล ขึ้นมาในอันดับ 7 ได้คะแนนในสนามนี้แต่ยังไม่สามารถคว้าแชมป์โลกอีกสมัยได้ ต้องตัดสินกันในเรซถัดไป ส่วนแชมป์ที่ มารีน่า เบย์ เป็นของเพื่อนร่วมทีม เปเรซ และได้รับรางวัลนักขับยอดเยี่ยมประจำวัน ตามด้วย 2 นักขับ เฟอร์รารี่ บนโพเดียม
ฟอร์มูล่า วัน สนามถัดไป เจแปนิส กรังด์ปรีซ์ 7-9 ต.ค. นี้ ถ่ายทอดสดทางช่อง ทรูสปอร์ต1 (666)
F1DRIVE
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial